ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐ เปิดเผยในรายงานของกระทรวง โดยกลับคำพูดจากที่เคยระบุว่าจีนปั่นค่าเงินหยวน เปลี่ยนเป็น "ค่าเงินหยวนยังคงต่ำกว่ามูลค่าตลาด และยังไม่มีประเทศใดมีการปั่นค่าเงินหยวนอย่างผิดกฎหมายนับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีพ.ศ.2551"
แถลงการณ์ดังกล่าวช่วยให้สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐผ่อนคลายลง หลังจากที่เคยระบุเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า "ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เชื่อว่าจีนกำลังปั่นค่าเงินเพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมส่งออกของจีนมีข้อได้เปรียบด้านการค้า" ซึ่งการแสดงความเห็นในครั้งนั้นทำให้จีนขุ่นเคืองใจอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม การกลับคำพูดของรมว.คลังสหรัฐได้สร้างความไม่พอใจให้กับวุฒิสภาชิกบางคนของบริษัท รวมทั้งบริษัทและสหภาพหลายแห่งที่ต้องการให้รัฐบาลใช้มาตรการจัดการกับจีนที่พยายามบิดเบือนค่าเงินหยวนให้ต่ำกว่ามูลค่าตลาด โดยนางลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกรัฐเซาท์แคโรไลนา สังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า "เห็นได้ชัดว่ากระทรวงการคลังเริ่มให้น้ำหนักกับการเมืองมากกว่าเศรษฐกิจ ทั้งๆที่ความจริงแล้วจีนกำลังปั่นค่าเงินหยวน"
ขณะที่นายชาร์ลส์ ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า "มีข้อมูลชัดเจนที่ระบุว่าจีนปั่นค่าเงินหยวน อย่างไรก็ตาม เราเคารพการตัดสินใจของคณะทำงาน และอาจจะมีการทบทวนเรื่องนี้ใหม่"
นิโคลาส์ ลาร์ดี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจจีนประจำ Peterson Institute for International Economics ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า ที่ผ่านมานั้นจีนพยายามสกัดการแข็งค่าของเงินหยวนด้วยการเข้าซื้อดอลลาร์ โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ปีที่แล้ว ค่าเงินหยวนปรับตัวขึ้นเพียง 0.4% ซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนหน้านี้
ไกธ์เนอร์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในที่ประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในกรณีที่ออกมาระบุว่า จีนปั่นค่าเงินและเรียกร้องให้จีนปล่อยให้สกุลเงินหยวนแข็งค่าขึ้น โดยนายสตีเฟ่น โรช ผู้บริหารประจำภูมิภาคเอเชียของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า หากจีนปล่อยเงินหยวนให้แข็งค่าก็เท่ากับเป็นการ "ฆ่าตัวตายทางเศรษฐกิจ"เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอยลงอย่างมากในขณะนี้ ด้านนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนกล่าวว่า "จีนต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาลของนายบารัค โอบามา ซึ่งจะทำให้ทั้งสองประเทศได้ประโยชน์ร่วมกัน แต่การเผชิญหน้ากันมีแต่จะทำให้สูญเสียทั้งคู่" ขณะที่ธนาคารกลางจีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของไกธ์เนอร์ โดยกล่าวว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริงและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน