นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอที่ประชุม ครม.วันอังคารที่ 21 เม.ย.พิจารณาการจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 53 ใหม่ เนื่องจากขณะนี้ สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไป หลังเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง จึงไม่สามารถดำเนินการตามกรอบเดิม ที่ครม.เคยมีมติเห็นชอบไปแล้ว โดยเฉพาะวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 390,000 ล้านบาทที่อาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้ของรัฐบาลคาดว่าจะลดลงมากกว่าเดิม ส่วนวงเงินที่จะปรับเพิ่มคงต้องรอขอความเห็นชอบจาก ครม.ให้ชัดเจนก่อน
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้ เห็นว่ามีความเหมาะสมดีแล้ว โดยเฉพาะโครงการต้นกล้าอาชีพ ที่รองรับแรงงานตกงาน และการให้เงินกับประชาชนผู้มีรายได้น้อย ทั้งเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท การช่วยเหลือผู้สูงอายุ หรือการให้เบี้ยเลี้ยงแก่อาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม เห็นว่าควรจำเป็นต้องมีมาตรการเร่งรัดช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวให้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น ผ่านโครงการต้นกล้าอาชีพ ซึ่งได้สั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งประสานงานกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อเข้าโครงการต้นกล้าอาชีพได้ทันที
"ผมสั่งการให้คณะทำงานโครงการต้นกล้าอาชีพเร่งพิจารณาให้รวดเร็ว เข้มข้นมากขึ้น เพื่อจะได้ทันกับสถานการณ์ เพราะสามารถพิจารณาได้ภายใน 30 วัน ส่วนโครงการอื่นยังต้องใช้เวลาโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะ 2 ผ่านการลงทุนวงเงิน 1.56 ล้านล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการ แม้ว่าเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้นอาจซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยแต่ยังดีที่จบได้เร็ว" นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษวันพรุ่งนี้ (17 เม.ย.) จะมีการพิจารณาการจัดทำกรอบการกู้เงินจากสถาบันการเงินและองค์กรต่าง ๆเพิ่มเติมด้วย