ภาคธุรกิจท่องเที่ยวยื่นข้อเสนอผ่านนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ขอรัฐช่วยเสริมสภาพคล่องบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากวิกฤติเศรษฐกิจ และซ้ำเติมด้วยปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง วอนรัฐออกพันธบัตรระดมเม็ดเงิน 1.55 หมื่นล้านบาทปล่อยกู้ตรงเงื่อนไขผ่อนปรน และให้เอสเอ็มอีแบงก์เข้ามาปล่อยกู้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมทั้งใช้งบประมาณ 1 พันล้านบาทชะลอเลิกจ้าง
สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่เข้าหารือในวันนี้ ได้แก่ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมไทยท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และผจญภัย สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย-ญี่ปุ่น และ สมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน
"จากการหารือรวมกับ 8 สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว พบว่าจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ตลอดจนผลกระทบจากความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่อง โดยเพาะปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคาร"นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า จะนำข้อเสนอทั้งหมดไปหารือกับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในวันที่ 20 เม.ย.เพื่อสรุปก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันอังคารหน้า โดยเฉพาะข้อเสนอให้รัฐบาลออกพันธบัตรระดมเม็ดเงิน 1.55 หมื่นล้านบาทมาปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวโดยตรง
ส่วนการใช้งบประมาณ 1 พันล้านบาทเพื่อชะลอการเลิกจ้างในธุรกิจท่องเที่ยวนั้น นายกอร์ปศักดิ์ เห็นว่า ผู้ประกอบการควรจะเข้าร่วมเข้าโครงการต้นกล้าอาชีพที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ เนื่องจากมีวัตถุประสงค์และงบประมาณเพื่อรองรับในส่วนนี้อยู่แล้วประมาณ 400-500 ล้านบาท
สำหรับข้อเรียกร้องให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เช่น เอสเอ็มอีแบงก์เข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยว โดยขอให้พิจารณาปล่อยสินเชื่อโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ให้ผู้ประกอบการสามารถเซ็นค้ำประกันระหว่างกันนั้น นายกอร์ปศักดิ์ ยอมรับว่า เอสเอ็มอีแบงก์คงทำตามเงื่อนไขนี้ได้ยาก เนื่องจากมีปัญหาว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบหากเกิดความเสียหายจากการปล่อยกู้ในส่วนนี้ ดังนั้น รัฐบาลจะต้องกลับไปพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้งว่าจะหาทางอื่นช่วยเหลือได้อย่างไร