FED ยืนยันหนุนนักลงทุนเชื่อมั่นสกุลเงินดอลล์ พร้อมใช้นโยบายไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อ

ข่าวต่างประเทศ Saturday April 18, 2009 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ริชาร์ด ฟิสเชอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส และหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เอฟโอเอ็มซี) ยืนยันว่า เฟดจะพยายามกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

"งานของเฟดคือการทำให้นักลงทุนทุกคนเชื่อมั่นในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และวิธีที่ดีที่สุดคือการทำให้นักลงทุนเชื่อว่านโยบายของเฟดจะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อ เพราะภาวะเงินเฟ้อจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง" ฟิสเชอร์กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างเดินทางเยือนประเทศจีน

ฟิสเชอร์กล่าวว่า "เมื่อปีที่แล้วเฟดรุกใช้นโยบายสนับสนุนนักลงทุนให้เข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์ แทนที่จะกดดันให้นักลงทุนเทขาย จึงทำให้ดอลลาร์แข็งแกร่งขึ้น 17% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร และพุ่งขึ้น 29% เมื่อเทียบกับปอนด์ ส่วนในปีนี้ผมทราบดีว่าหลายฝ่ายกังวลว่าเฟดจะใช้นโยบายที่ทำให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจสหรัฐ ผมขอให้ทุกคนมั่นใจว่าเฟดรับรู้ถึงความกังวลในเรื่องนี้มาโดยตลอดและจะไม่ใช้นโยบายที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างแน่นอน"

เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวประมาณ 0.5-1.3% ในปีนี้ มากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 0.2-1.1% ขณะเดียวกันคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวตลอดทั้งปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวทั้งปีเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8.5-8.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.1-7.6%

"แม้เฟดประเมินเศรษฐกิจที่เป็นลบในปีนี้ แต่เราเชื่อว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า" ฟิสเชอร์กล่าว

ฟิสเชอร์กล่าวชื่นชมรัฐบาลจีนที่ใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.85 แสนล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าจีนตอบสนองวิกฤตการณ์การเงินโลกได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆทั่วโลก จึงทำให้เศรษฐกิจจีนยังคงขยายตัวได้ในไตรมาสแรกของปีนี้

นอกจากนี้ ฟิสเชอร์กล่าวว่าการเดินทางมายังภูมิภาคเอเชียในครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการเยือนญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง จีน และเกาหลีใต้นั้น เขามีเป้าหมายที่จะทำความเข้าใจให้มากขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่ทั่วโลกต้องเผชิญวิกฤตการณ์ด้านการเงิน และศึกษาว่าเพราะเหตุใดจีนจึงรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี สำนักข่าวซินหัวรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ