เงินยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปเกิดสียงแตกในการกำหนดนโยบายที่มุ่งฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาค
ขณะเดียวกันเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าตลาดหุ้นในเอเชียจะเคลื่อนไหวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนมีความมั่นใจที่จะเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง ขณะที่ดัชนีเงินดอลลาร์เทรดใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากแนวโน้มที่ว่าสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอีก 3-6 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินดอลลาร์กันอย่างคึกคัก
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08:53 น.ตามเวลาโตเกียว เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3011 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 มี.ค. เมื่อเทียบกับระดับ 1.3044 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินยูโรเทรดที่ 129.32 เยน/ยูโรจากระดับ 12.33 เยน/ยูโร ส่วนเงินดอลลาร์เทียบเยนนั้นอยู่ที่ 99.35 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 99.16 เยน/ดอลลาร์
เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง 0.3% แตะที่ 56.51 ดอลลาร์นิวซีแลนด์/เยน จากระดับ 56.32 ดอลลาร์นิวซีแลนด์/เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และเคลื่อนไหวที่ 71.63 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/จากระดับ 71.64 ดอลลาร์ออสเตรเลีย/เยน
"นักลงทุนเกรงว่าเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปจะไม่สามารถออกมาตรการมาใช้ป้องกันเศรษฐกิจได้มากพอ" เดนิกา แฮมป์ตัน นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ นิวซีแลนด์กล่าว "สัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจในเขตยูโรโซนเลวร้ายลงเรื่อยๆซึ่งจะยิ่งสร้างแรงกดดันในเชิงลบต่อเงินยูโร"
โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็กเซล เวเบอร์ เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของอีซีบีกล่าวว่า ธนาคารอาจไม่ลดดอกเบี้ยลงต่ำกว่าระดับ 1% ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนสนับสนุนความเห็นในการใช้นโยบายทางการเงินแบบผ่อนปรนด้วยการลดดอกเบี้ยลงต่ำกว่าระดับ 1% และชี้ว่าควรมีการเข้าซื้อตราสารหนี้มากขึ้นเพื่ออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ