นายสรสิทธิ์ สุนทรเกส ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในฐานะคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก กล่าวถึงข้อเรียกร้องของสมาคมธนาคารไทยที่เสนอขอลดการนำส่งเงินสมทบในอัตรา 0.4% ของมูลค่าเงินฝากในแต่ละปีในกองทุนคุ้มครองเงินฝากที่อยู่ภายใต้สถาบันคุ้มครองเงินฝากเป็นการชั่วคราวเพื่อช่วยลดภาระต้นทุนว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝากวันที่ 23 เม.ย.นี้จะนำเรื่องนี้มาพิจารณาด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนทั้งในด้านของอัตราการส่งเงินสมทบเข้าสถาบันฯ ที่จะสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมถึง พิจารณาความสามารถในการทำกำไรของธนาคารพาณิชย์ว่ามีมากน้อยเพียงใด และความสามารถของการจ่ายเงินสบทบ
ทั้งนี้ การพิจารณาเรื่องเงินสมทบเข้าสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ต้องพิจารณาถึงการเริ่มก่อตั้งสถาบันฯ ซึ่งในระยะเริ่มแรกการมีระดับเงินกองทุนที่เหมาะสมมีจำเป็นอย่างมาก ซึ่งตั้งแต่จัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ธนาคารพาณิชย์ได้ส่งเงินสมทบเพียง 1 งวด ในเดือน ธ.ค.51 เป็นเงินประมาณ 20,000 ล้านบาทเท่านั้น
"การเก็บเงินเข้ากองทุนค้ำประกันเงินฝากในอัตรา 0.4% ทำมานานแล้ว และเป็นอัตราคงที่ ไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร และเห็นว่าไม่ได้เป็นภาระแก่ธนาคารพาณิชย์เลย เพราะเป็นต้นทุนที่เล็กน้อย"นายสรสิทธิ์ กล่าว
นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. ระบุว่า ช่วงแรกของการจัดตั้งสถาบันคุ้มครองเงินฝากควรจะมีความแข็งแกร่งของระดับเงินทุน ส่วนการลดอัตราเงินนำส่งของธนาคารพาณิชย์ ถือเป็นอำนาจของคณะกรรมการสถาบันฯ จะพิจารณา