ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจลดคาดการณ์เศษฐกิจ หลังผู้บริโภคและบริษัทเอกชนลดการใช้จ่าย

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจจะปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจและราคาลงในสัปดาห์หน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังคงอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่หลังจากที่บริษัทเอกชนและภาคครัวเรือนลดการใช้จ่ายลง

นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะหดตัวลง 4.2% ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2553 ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการคาดการณ์ของธนาคารกลางญี่ปุ่นเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคที่ไม่นับรวมอาหารสดนั้น คาดว่าจะร่วงลง 1.3% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ของธนาคารกลางญี่ปุ่นเช่นกัน

นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจอ่อนตัวลงนับตั้งแต่เดือนม.ค.ที่ผ่านมา การใช้จ่ายของบริษัทเอกชนและผู้บริโภคที่อ่อนตัวลงจะเป็นปัจจัยที่ขัดขวางการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากการส่งออกและการผลิตที่อ่อนตัวลง นักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า งบประมาณการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ มูลค่า 15.4 ล้านล้านเยน หรือ 1.55 แสนล้านดอลลาร์คงจะไม่สามารถพยุงให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นได้

มาริ อิวาชิตะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของบล.ไดว่า เอสเอ็มบีซี กล่าวว่า บอร์ดบีโอเจคงจะออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่นภายใต้จุดยืนที่ระมัดระวัง เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะทำให้การขยายตัวร่วงลงหลังจากที่ขยับขึ้นชั่วคราวภายหลังจากที่ได้มีการใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงิน ธนาคารกลางญี่ปุ่นคงจะให้ความสำคัญมากกับความเสี่ยงช่วงขาลง

ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเปิดเผยแนวโน้มเศรษฐกิจในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ซึ่งรายงานดังกล่าวจะมีข้อมูลการคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศและดัชนีราคาผู้บริโภคของบอร์ดบีโอเจในปีงบประมาณ 2552 ที่จะสิ้นสุดลงในเดือนมี.ค. 2553

เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา บอร์ดบีโอเจคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะหดตัวลง 2% ในปีงบประมาณปัจจุบัน ก่อนที่จะขยายตัว 1.5% ในปีหน้า ส่วนเงินเฟ่อคาดว่าจะร่วงลง 1.1% ในปีงบประมาณปัจจุบัน และอ่อนตัวลง 0.4% ในปีงบประมาณหน้า