แบงก์ ออฟ อเมริกา ธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐในแง่สินทรัพย์ รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2552 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการรีไฟแนนซ์บ้านและกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์
แบงก์ ออฟ อเมริกา เผยว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 4.24 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามเดือนแรกปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับจำนวน 1.21 พันล้านดอลลาร์ หรือ 23 เซนต์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยหลังจากจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์เป็นจำนวนกว่า 700 ล้านดอลลาร์แล้ว กำไรของแบงก์ ออฟ อเมริกาจะอยู่ที่ 44 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 4 เซนต์
สำหรับปัจจัยที่มีส่วนช่วยหนุนให้ผลประกอบการของธนาคารดีเหนือความคาดหมายมากก็คือ การซื้อกิจการเมอร์ริล ลินช์ และคันทรีไวด์ โดยการเข้าเทคโอเวอร์เมอร์ริล ลินช์ เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่วยทำกำไรให้ธนาคารได้ 3.7 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่การซื้อคันทรีไวด์ทำให้ยอดเงินกู้ซื้อบ้านและการรีไฟแนนซ์เพิ่มขึ้น
การเปิดเผยผลกำไรของแบงก์ ออฟ อเมริกา นับเป็นสัญญาณบวกล่าสุดที่บ่งชี้ว่าภาคธนาคารกำลังฟื้นตัว หลังจากที่บรรดาธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐต่างพาเหรดรายงานผลกำไรไตรมาสแรกกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็น เวลส์ ฟาร์โก, โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส และซิตี้กรุ๊ป โดยเฉพาะหลายหลังนี้ถือเป็นการทำกำไรครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปีเลยทีเดียว
ทั้งนี้ แบงก์ ออฟ อเมริกา ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐเป็นจำนวน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของงบช่วยเหลือภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ของกระทรวงการคลัง