อินเตอร์เนชั่นแนล บิสิเนส แมชชีน คอร์ป (ไอบีเอ็ม) ผู้ให้บริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีรายใหญ่สุดของโลก เผยรายได้ไตรมาสแรกไม่ถึงเป้าที่ตั้งไว้ เนื่องจากความต้องการบริการและผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ลดลง ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินก็ส่งผลกระทบต่อยอดขาย
โดยรายได้ของบริษัทร่วงลง 11% เหลือ 2.17 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์เคยคาดไว้ว่าจะได้ราว 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะเดียวกันการถือครองสกุลเงินอย่างต่อเนื่องก็อาจทำให้รายได้ของบริษัทลดลง 4% อย่างไรก็ตาม มาตรการลดต้นทุนการผลิตด้วยการปลดพนักและย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศ ช่วยให้บริษัทยังสามารถทำกำไรได้เกินคาดในช่วงเวลาดังกล่าว
บริษัท ฟอร์เรสเตอร์ รีเสิร์ช อิงค์ เปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านเทคโนโลยีในสหรัฐมีแนวโน้มลดลง 3.1% ในปีนี้ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจกดดันให้ แซม พัลมิซาโน ซีอีโอของไอบีเอ็ม ต้องคิดถึงการควบรวมกิจการกับบริษัทอื่น หลังจากที่เพิ่งประสบความล้มเหลวในการควบรวมกับ ซัน ไมโครซิสเต็มส์ อิงค์ ซึ่งหันไปควบรวมกับ โอราเคิล คอร์ป แทน
"ธุรกิจฮาร์ดแวร์เริ่มเข้าสู่ภาวะซบเซาอีกครั้ง" คริส วิธมอร์ นักวิเคราะห์จากดอยช์ แบงค์ เอจี ในซานฟรานซิสโก กล่าว "แต่ที่ไอบีเอ็มยังสามารถรักษากำไรได้เป็นเพราะการลดต้นทุนลงอย่างมาก"
ทั้งนี้ ไอบีเอ็มยังคงคาดการณ์ผลกำไรปีนี้ไว้ที่อย่างน้อย 9.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยมาร์ค ลัฟริดจ์ หัวหน้าฝ่ายการเงินของบริษัท เผยว่าตอนนี้เขามีความมั่นใจในตัวเลขดังกล่าวมากกว่าในไตรมาสที่แล้ว เนื่องจากบริษัทยังคงใช้มาตรการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน