นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เปิดเผยว่า บีโอเอจะเร่งออกแนวทางกระตุ้นการลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังจากพบว่าในการสำรวจความเห็นของสื่อและนักลงทุนต่างประเทศระบุว่าความรุนแรงทางการเมืองในประเทศส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศอย่างรุนแรง และยังทำให้บริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอไปแล้วชะลอการลงทุนด้วย
และจากการหารือกับประธานหอการค้าต่างประเทศ มีความเห็นว่าแม้นักลงทุนต่างประเทศจะเข้าใจสถานการณ์การเมืองของไทย แต่การเชิญชวนการลงทุนใหม่จากต่างประเทศยังเป็นเรื่องที่ดำเนินการได้ยาก โดยเฉพาะบริษัทที่มีบริษัทแม่ในต่างประเทศจะขาดความเข้าใจและหวาดกลัวที่จะเข้ามาลงทุนในไทย แม้บริษัทลูกในไทยจะเข้าใจสถานการณ์การเมืองของไทยเป็นอย่างดีก็ตาม
นอกจากนั้น ที่ประชุมบอร์ดบีโอไอวันนี้มีการรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาและอุปสรรคการขอรับการส่งเสริมการลงทุนที่ยังค้างอยู่ ส่วนใหญ่เป็นปัญหาเรื่องกฎระเบียบที่ยังติดขัดขั้นตอนกฎหมาย เช่น เรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหรือการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ นายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้มีการจัดประชุมกลุ่มย่อยเพื่อหาข้อยุติ โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมด้วยตนเอง
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวอีกว่า จากการที่บีโอไอมีแผนเปิดสำนักงานในต่างประเทศ 5 แห่งในปี 52 นี้ โดยแห่งแรกได้เปิดไปแล้วที่กรุงปักกิ่ง มีการตอบรับเป็นอย่างดี และในวันที่ 24-26 พ.ค.นี้ คณะนักลงทุนจากจีนกว่า 400 คน จะเดินทางเข้ามาศึกษาแนวทางการลงทุนในไทย
ดังนั้น บีโอไอ จึงยังเดินหน้าเปิดสำนักงานในต่างประเทศอีก 4 แห่งต่อไป ประกอบด้วย ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ 30 เม.ย. ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เดือน มิ.ย. ที่กวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เดือน ก.ค. และ สวีเดน เดือน ก.ย.
สำหรับยอดการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ช่วง ไตรมาส 1/52 มีจำนวน 228 โครงการ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28% แต่มีวงเงินลงทุน 1.2 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6%