ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: แรงขายฉุดดอลล์ร่วงหนักเทียบยูโร

ข่าวต่างประเทศ Wednesday April 22, 2009 07:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆของโลก ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสกุลเงินดอลลาร์และหันเข้าเทรดในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นในภาคการธนาคารของสหรัฐ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.16% แตะที่ 1.2936 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2915 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.4665 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4525 ดอลลาร์/ปอนด์

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนลง 0.09% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ที่ระดับ 1.1683 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1693 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 98.720 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 97.950 เยน/ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.01% แตะระดับ 0.7117 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.6977 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.83% แตะระดับ 0.5625 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5524 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักลงทุนแห่เทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและย้ายฐานการลงทุนเข้าไปยังตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งสภาคองเกรสเมื่อคืนนี้ว่า ธนาคารส่วนใหญ่มีทุนสำรองเพียงพอที่จะปกป้องการขาดทุนได้ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องปัญหาในภาคการธนาคาร

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์สหรัฐถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลหลังจากแบงค์ ออฟ อเมริกา เปิดเผยว่าจำนวนลูกค้าที่ผิดนัดชำระหนี้พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ธนาคารต้องตั้งบัญชีสำรองหนี้สูญมูลค่า 1.34 หมื่นล้านดอลลาร์ และโกลด์แมน แซคส์ระบุว่าการขาดทุนด้านสินเชื่อของซิตี้กรุ๊ปยังคงขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วและคาดว่าจะซิตี้กรุ๊ปจะขาดทุนไตรมาสแรก 38 เซนต์/หุ้น

ขณะที่ค่าเงินยูโรได้รับแรงหนุนจากศูนย์วิจัย ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในยุโรป พุ่งขึ้นแตะระดับ 13 จุดในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ -3.5 จุด ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2550 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 2 จุด

ส่วนค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.9% จากปีที่แล้ว เปรียบเทียบกับระดับ 3.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 29 คนที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ