กระทรวงการคลังญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนมี.ค.ลดลง 45.6% แต่เป็นสถิติที่ปรับตัวลงน้อยกว่าในเดือนก.พ.ที่ทรุดตัวลงถึง 49.4% และไม่มากเท่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์บลูมเบิร์กคาดว่าจะร่วงลง 46.4% ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยของญี่ปุ่นอาจเริ่มบรรเทาลงแล้ว
ขณะที่ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นลดลงสู่ระดับ 7.253 แสนล้านเยนในรอบปีซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนมี.ค.
เดวิด โคเฮน หัวหน้าฝ่ายคาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียจากบริษัท Action Economics กล่าวว่า ยอดส่งออกของญี่ปุ่นเริ่มฟื้นตัวขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นเริ่มปรับฐานขึ้น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะแรกของการฟื้นตัว หลังจากเฟดอัดฉีดเม็ดเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดการเงิน ขณะที่จีนระบุว่าผลผลิตอุตสาหกรรมและการลงทุนในสินทรัพย์คงทีปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค.
คาโอรุ โยซาโนะ รมว.คลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า รัฐบาลจะนำพันธบัตรล็อตใหม่มูลค่า 10.8 ล้านล้านเยน หรือ 1.10 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐออกขายเพิ่มเติมในปีงบประมาณปีนี้ เพื่อเป็นทุนสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรีทาโร่ อาโสะ ซึ่งจะทำให้ยอดขายพันธบัตรโดยรวมของรัฐบาลพุ่งเป็น 44.1 ล้านล้านเยน ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นพันธบัตรที่ระดมทุนเพื่อโครงการก่อสร้างมูลค่า 7.3 ล้านล้านเยน และอีก 3.5 ล้านล้านเยนจะเป็นพันธบัตรที่ขายเพื่อลดการขาดดุลการค้า สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน