เนสท์เล่ เอสเอ บริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทร่วงลง 2.1% ในไตรมาสแรกปีนี้ นับเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สอง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เงินฟรังก์สวิสแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ อีกทั้งราคาสินค้าที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่าของคู่แข่ง
โดยยอดขายผลิตภัณฑ์ของเนสท์เล่ ซึ่งรวมถึง กาแฟเนสเพรสโซ่ ไอศครีมฮาเก้นดาส และน้ำแร่เปอริเอ้ คิดเป็นมูลค่า 2.52 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (2.15 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2552 ลดลงจากระดับ 2.57 หมื่นล้านฟรังก์สวิสในปีก่อน
อย่างไรก็ดี พอล บัลเก้ ซีอีโอของเนสท์เล่ ยังยืนยันว่า บริษัทบรรลุเป้าหมายการขยายตัวที่ 3.8% แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะห่างไกลถ้าเทียบกับการขยายตัวเกือบ 10% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ซีอีโอเผยว่า เมื่อพิจารณาจากช่วงขาลงของเศรษฐกิจโลก เนสท์เล่มีแผนที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีราคาที่ย่อมเยาเพื่อให้ผู้บริโภคมีกำลังที่จะซื้อได้ นอกจากนี้มาตรการลดต้นทุนก็เป็นหนึ่งในแผนการด้วย