สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณจนถึงเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา พุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลกระทบต่อรายได้จากการจัดเก็บภาษี
ยอดขาดดุลงบประมาณของอังกฤษอยู่ที่ 9 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 เท่าจากระดับ 3.46 หมื่นล้านปอนด์ในปีก่อน โดยในเดือนมี.ค.เพียงเดือนเดียว ยอดขาดดุลงบประมาณสูงถึง 1.91 หมื่นล้านปอนด์ สูงกว่าการคาดการณ์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่า จะอยู่ที่ 1.55 หมื่นล้านปอนด์
นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งรุนแรงในรอบ 30 ปีทำให้นายอลิสแตร์ ดาร์ลิ่ง รมว.คลังอังกฤษไม่มีทางเลือกมากนักสำหรับการตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ในงบประมาณปัจจุบัน ดาร์ลิงคงจะต้องยอมรับว่า แนวโน้มเศรษฐกิจย่ำแย่กว่าที่เขาได้คาดการณ์ไว้เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว โดยยอดขาดดุลอาจจะสูงเกิน 11% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปีนี้
เจมส์ ไนท์ลีย์ นักเศรษฐศาสตร์ของไอเอ็นจี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสสำหรับการใช้มาตรการใหม่ๆมากนัก เนื่องจากเศรษฐกิจอ่อนตัวลงและรายได้จากการจัดเก็บภาษีก็ดิ่งลง