นักวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวจากอานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

เศรษฐกิจจีนอาจดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี จากอานิสงส์ของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการทุ่มเงินลงทุนของรัฐบาลมากขึ้น ขณะที่ยอดขายในตลาดอสังหาริมทรัพย์และยานยนต์ยังแข็งแกร่ง

หวัง ไห่เต๋า นักวิเคราะห์คาดการณ์จากบริษัท China Post & Capital Fund Management Co. กล่าวว่า "แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มส่งผลให้บริษัทต่างสามารถฟื้นตัวขึ้นจากภาวะตกต่ำลงอย่างรุนแรง"

ขณะที่ในสัปดาห์นี้ โกลด์แมน แซคส์ และมอร์แกน สแตนลีย์ ต่างออกมาปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนด้วยเช่นกัน สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดเงินกู้ล็อตใหม่ของจีนเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าแตะที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 4.58 ล้านล้านหยวน (6.70 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากที่รัฐบาลได้ยกเลิกข้อจำกัดด้านการออกเงินกู้ พร้อมเรียกร้องให้ธนาคารสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะทุ่มเงิน 4 ล้านล้านหยวน (5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในโครงการใช้จ่ายเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหลังจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำได้ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจส่งออก

หวังกล่าวว่า จีนยังคงมีสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจอยู่มาก แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการปล่อยกู้ของธนาคารอาจไม่เป็นไปอย่างยั่งยืน ส่วนบริษัทที่ต้องพึ่งอุปสงค์จากต่างประเทศมีแนวโน้มการดำเนินธุรกิจที่ดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลหลายประเทศต่างออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ช่วยให้ทั่วโลกฟื้นตัว

ทั้งนี้ ยอดเงินกู้ภาคธนาคารที่สูงเป็นประวัติการณ์ช่วยกระตุ้นยอดขายในภาคอสังหาริมทรัพย์ได้ 8.2% ในช่วงไตรมาสแรก ขณะที่ยอดขายยานยนต์เพิ่มขึ้น 10% ในเดือนที่แล้ว หลังจากรัฐบาลใช้มาตรการลดหย่อนภาษีและให้เงินช่วยเหลือตามแผนการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นการบริโภค

โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2542