เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี ธนาคารรายใหญ่ของสวิสเซอร์แลนด์รายงานผลกำไรที่พุ่งสูงเกินคาดในไตรมาสแรกของปีนี้ จากอานิสงส์จากรายได้ในการทำธุรกรรมที่ฟื้นตัวขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รายได้สุทธิของเครดิต สวิสอยู่ที่ 2 พันล้านฟรังก์สวิส (1.7 พันล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับที่ขาดทุน 2.15 พันล้านฟรังก์สวิสในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่ารายได้จะอยู่ที่ 1 พันล้านฟรังก์สวิส
โดยแผนกหลักทรัพย์ของเครดิตสวิสรายงานผลกำไรก่อนหักภาษีที่ 2.4 พันล้านฟรังก์ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์เมื่อเทียบกับที่ขาดทุน 3.4 พันล้านฟรังก์ในปีก่อนหน้านี้ ส่วนรายได้ในแผนกการบริหารความมั่งคั่งและธนาคารเพื่อรายย่อยลดลง 25% ขณะที่ฝ่ายจัดการสินทรัพย์ขาดทุน 490 ล้านฟรังก์ แต่ดีกว่าที่ขาดทุน 544 ล้านฟรังก์ในปีที่แล้ว
แบรดี้ ดูแกน ซีอีโอของเครดิต สวิสกล่าวว่า เขายังมองเห็นแนวโน้มการดำเนินธุรกิจที่สดใส แต่ถึงกระนั้นยังมีแผนที่จะปลดพนักงาน 5,300 ตำแหน่ง พร้อมกับยุบแผนกที่ไม่สามารถทำเงินได้ในกลุ่มธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ ขณะที่ยูเอสบี เอจี รายงานตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรกที่เกือบ 2 พันล้านฟรังก์
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์กล่าวว่า "การเปิดเผยรายได้ของเครดิตสวิสในวันนี้ช่วยตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการครองส่วนแบ่งในตลาดวาณิชธนกิจและแบงกิ้งภาคเอกชนในยามที่ธนาคารคู่แข่งหลายแห่งอยู่ในภาวะระส่ำระสาย"
"การดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบในตลาดเกิดใหม่ช่วยหนุนให้การดำเนินธุรกิจธนาคารเดินหน้าต่อไปได้" ดูแกนกล่าว "อย่างไรก็ตาม เราอาจได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง หากสถานการณ์เลวร้ายยังไม่คลี่คลายลง แต่ราเชื่อว่าธนาคารจะสามารถยืนหยัดอยู่ท่ามกลางมรสุมและเติบโตได้อย่างงดงามเมื่อโอกาสมาถึง
ขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป, ซิตีกรุ๊ป อิงค์ และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โคต่างรายงานผลกำไรไตรมาสแรกที่สูงเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากรายได้การทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น หลังจากที่สถาบันการเงินทั่วโลกมีตัวเลขขาดทุน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้ปรับลดพนักงานไปแล้วกว่า 307,000 ตำแหน่งนับตั้งแต่เกิดวิกฤตตลาดซับไพรม์สหรัฐ โดยยูบีเอสเป็นธนาคารสัญชาติยุโรปที่มีเผชิญภาวะขาดทุนหนักที่สุด ซึ่งมียอดการปรับลดมูลค่าทางบัญชี 5.06 หมื่นล้านดอลลาร์ มากกว่าของเครดิต สวิสที่มีอยู่ 1.54 หมื่นล้านดอลลาร์