ING Groep NV คาดการณ์ว่ายอดเกินดุลการค้าของจีนจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.25 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งทำให้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวสูงขึ้น และเพิ่มแรงกดดันให้กับธนาคารกลางจีนในการถือครองสกุลเงินอื่นแทนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง
ทิม คอนดอน นักวิเคราะห์ฝ่ายวิจัยในภูมิภาคเอเชียของ ING Groep NV กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้ยอดเกินดุลการค้าของจีนพุ่งขึ้นมาจากราคานำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง โดยปัจจุบันทุนสำรองเงินตราตางประเทศของจีนยืนอยู่ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.95 ล้านล้านดอลลาร์
นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนได้แสดงความกังวลว่าสกุลเงินดอลลาร์จะอ่อนตัวลง ซึ่งจะทำให้มูลค่าพันธบัตรที่จีนถือครองอยู่ลดน้อยลงด้วย โดยปัจจุบันจีนเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรายใหญ่สุดของสหรัฐที่ระดับ 7.44 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาซึ่งสิ้นสุด ณ เดือนก.พ.
การอ่อนค่าลงของดอลลาร์ทำให้นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนเรียกร้องให้มีการใช้เงินสกุลอื่นเป็นค่ามาตรฐานในระบบสำรองเงินตราแทนที่สกุลเงินดอลลาร์ของสหรัฐ พร้อมเสนอให้ยกเครื่องระบบการเงินโลกที่ไร้การครอบงำจากสหรัฐ และแนะนำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้นำเงินสกุล SDR มาใช้ในระบบสำรองเงินตราระหว่างประเทศอีกครั้ง
มิทัล โกเตชา หัวหน้านักยุทธศาสตร์ด้านปริวรรตเงินตราจากธนาคารคาลิยงในฮ่องกงกล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้มีนัยสำคัญต่อตลาดปริวรรตเงินตราทั่วโลกและสะท้อนให้เห็นว่าความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินหลักของระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ "กำลังจะจบสิ้นลง" และจีนมีเจตนาที่จะผลักดันเงินหยวนให้เป็นสกุลเงินหลักในระบบสำรองเงินตราต่างประเทศของโลกแทนสกุลเงินดอลลาร์
ค่าเงินหยวนแข็งแกร่งขึ้น 21% เมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่ธนาคารกลางประกาศยกเลิกนโยบายผูกติดค่าเงินหยวนกับดอลลาร์ในเดือนก.ค.ปี 2548 โดย ณ เวลา 1.30 น.ตามเวลาเซี่ยงไฮ้ในวันนี้ เงินหยวนเคลื่อนไหวอยู่ที่ 6.8293 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ร่วงลง 13% เมื่อเทียบกับ 16 สกุลเงินที่สำคัญของโลกนับตั้งแต่ต้นปี 2552 เป็นต้นมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน