"กรณ์" เผยผลโรดโชว์ลอนดอน นักลงทุนตปท.พร้อมให้โอกาสไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 24, 2009 15:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากการชี้แจงนักลงทุนต่างชาติ (Investor Roadshow) ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันที่ 23-24 เม.ย. ได้มีโอกาสชี้แจงภาพรวมของไทยให้ นักลงทุนกว่า 30 สถาบัน มีเม็ดเงินที่ดูแลทั้งหมดประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อให้นักลงทุน ได้รับทราบข้อมูลที่แท้จริง ปัญหา และอุปสรรคในการลทุนในไทย ซึ่งนักลงทุนต่างชาติ ยังพร้อมที่จะให้โอกาสแก่ประเทศไทย และยังสนับสนุนการดำเนินโยบายของรัฐบาล เพียงแต่รอดูผลของการแก้ปัญหาของประเทศทั้งในส่วนของการเมืองและเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ รมว.คลัง ได้ปาฐกถา เรื่อง "การฟื้นฟูและพลิกฟื้นประเทศไทยภายใต้การนำของรัฐบาล (Government-led Recovery and Restructuring of Thailand) ว่า ขณะนี้ไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง จากวิกฤติเศรษฐกิจโลกได้ส่งผลกระทบต่อการหดตัวเศรษฐกิจไทย ผ่านการลดลงของการส่งออก และปัญหาความไม่สงบทางการเมืองในประเทศ ได้ซ้ำเติมให้เศรษฐกิจไทยน่าจะหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อการท่องเที่ยวและการลดลงของความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาคการผลิตจะเผชิญความเสี่ยงดังกล่าว แต่ภาคการเงินของไทยยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่มาก ดังจะเห็นได้จากข้อมูลหนี้เสีย NPL ของระบบธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ในระดับต่ำไม่ถึง 6% ของสินทรัพย์รวม และเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ที่อยู่ในระดับสูงประมาณ 14% ซึ่งมากกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 8.5%

ทั้งนี้ รัฐบาลมีแนวทางในการฟื้นฟูและพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย โดยการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจระยะสั้นที่เน้นการสร้างกำลังซื้อในประเทศ เป็นเม็ดเงินทั้งสิ้น 496,000 ล้านบาท คิดเป็น 5.4% ของ GDP เช่นการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 52 จำนวน 1.17 แสนล้านบาท มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 40,000 ล้านบาท และการใช้สถาบันการเงินของรัฐในการเร่งเพิ่มสินเชื่อเพื่อให้ผู้ประกอบการจำนวน 339,000 ล้านบาท นอกจากนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนของรัฐบาลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว โดยรัฐบาลได้อนุมัติวงเงินลงทุน1.57 ล้านล้านบาท ในช่วงปีงบประมาณ 53-55

ส่วนปัญหาทางการเมืองของไทย รัฐบาลได้ดำเนินการแก้ปัญหาด้วยการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีการใช้สิทธิภายใต้กรอบกฎหมายที่จะต้องไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น ช่วยแก้ไขปัญหาความไม่สงบในช่วงต้น เม.ย.ได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาว รัฐบาลได้มีแนวทางที่จะแก้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ต้นเหตุ ด้วยการใช้กระบวนการทางรัฐสภาเพื่อให้สมาชิกรัฐสภาช่วยกันแก้ปัญหาทางการเมืองและปฏิรูปทางการเมืองร่วมกัน

รมว.คลัง กล่าวอีกว่า นักลงทุนต่างชาติได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในหลายประเด็น โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการประเมินเศรษฐกิจและการเมืองไทยอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ช่วยสร้างความเข้าใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองไทยได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมองว่าปัญหาความไม่สงบทางการเมืองทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก ที่จะเป็นประเทศที่สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพการเงินที่เข้มแข็งกว่าหลายๆ ประเทศและเห็นว่าหากแนวทางการปฎิรูปทางการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลประสบความสำเร็จ จะช่วยให้ประเทศไทยน่าลงทุนมากขึ้น

นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติ ได้สนับสนุนโครงการลงทุนของภาครัฐค่อนข้างมาก และได้สอบถามถึงความเป็นไปได้ในการหาแหล่งเงินเพื่อใช้ในการลงทุน ซึ่งได้ให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนถึงความสามารถในการกู้เงินในประเทศที่มีสภาพคล่องส่วนเกินในระบบการเงินสูงถึงประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท โดยที่ภาครัฐมีหนี้ต่างประเทศน้อยมากเพียง 12% ของยอดหนี้สาธารณะทั้งหมด ทำให้การกู้เงินทั้งในประเทศและต่างประเทศไม่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนของภาครัฐ

ขณะที่นโยบายการลงทุนในรูปแบบ ให้ภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนกับภาครัฐ (Public Private Partnership: PPP) เป็นนโยบายที่ดึงดูดให้ภาคเอกชนลงทุนเพิ่มขึ้น และยังเป็นการช่วยให้การบริหารจัดการและการขับเคลื่อนโครงการลงทุนของภาครัฐเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนักลงทุนตต้อกงาร เห็นนโยบายที่มีความชัดเจนของรัฐบาลว่าจะกระตุ้นให้ภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศมีส่วนร่วมมากขึ้น

"เราแสดงความเป็นห่วงการนำแผนงานลงทุนที่รัฐบาลอนุมัติไปทำให้เกิดผลในทางปฏิบัติ และยืนยันความตั้งใจของรัฐบาลในการกำกับดูแลการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม" รมว.คลัง กล่าว

ทั้งนี้ รมว.คลัง จะได้เดินทางต่อไป ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐ เพื่อเข้าร่วมประชุมธนาคารโลก (Spring Meeting) และเพื่อพบปะกับนักลงทุนสหรัฐฯ และถือโอกาส เข้าพบ นายทีโมธี การ์ธเนอร์ รมว.คลังของสหรัฐ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวคิดที่จะสร้างประโยชน์ร่วมกันระหว่างสองประเทศ

นอกจากนั้น รมว.คลัง ยังมีกำหนดเข้าปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของวิธีการเสริมการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน รวมทั้งวิธีการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวไทยด้วยระบบประกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ