สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และข่าวที่ว่าจีนทุ่มซื้อทองคำต่อเนื่อง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7.50 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 914.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดที่ 12.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 16.7 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค.ขยับขึ้น 5.9 เซนต์ ปิดที่ 2.05 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมเดือนก.ค.ปิดที่ 1,183.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 4.50 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนมิ.ย.ปิดที่ 235.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.95 ดอลลาร์
ราคาทองคำที่ปิดสูงขึ้นเมื่อวันศุกร์ ได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับยูโร หลังมีรายงานว่าความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 26 ปีในเดือนเม.ย. หลังธนาคารกลางยุโรปประกาศลดดอกเบี้ยและรัฐบาลเยอรมันประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จนทำให้นักลงทุนเชื่อว่าวิกฤตเศรษฐกิจจะทุเลาลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการที่จีนออกมาเผยว่าได้ดำเนินการซื้อทองมาอย่างต่อเนื่อง นายหู เสี่ยวหลิน ผู้อำนวยการสำนักบริหารปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) กล่าวว่า รัฐบาลจีนได้ทุ่มซื้อทองคำ 454 เมตริกตันเก็บไว้ในคลังสำรองตั้งแต่ปีพ.ศ.2546 โดยผ่านการซื้อในตลาดภายในประเทศและจากโรงงานถลุงแร่ทองคำ ส่งผลให้ทองคำสำรองของจีนทั้งหมดในปัจจุบันยืนอยู่ที่ 1,054 ตัน
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อทองคำถูกสกัดกั้นไม่ให้สูงไปกว่านี้ เนื่องจากแรงซื้อหุ้นในตลาดวอลล์สตรีทที่แข็งแกร่ง หลังฟอร์ด มอเตอร์ โค บริษัทรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ รายงานตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรกที่น้อยกว่าคาด รวมถึงอเมริกัน เอ็กซ์เพรสและไมโครซอฟท์ที่เปิดเผยผลประกอบการซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายวิตกเศรษฐกิจลงไปชั่วคราว
ร็อบ คูร์ซัตโควสกี นักวิเคราะห์จากออปชั่นเอ็กซ์เพรส กล่าวว่า "เนื่องจากเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำเวลานี้ และตลาดหุ้นแข็งแกร่งในระยะหลัง ส่งผลให้ความสนใจในตลาดทองคำลดลงนับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นเริ่มเดินหน้าคึกคัก"