นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีกระทรวงคลังสหรัฐได้ผลักดันให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันต่อวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจทั่วโลกให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มากขึ้นในที่ประชุมคณะกรรมการด้านนโยบายการเงินสากลของไอเอ็มเอฟ ซึ่งเกี่ยวพันกับแผนการขยายความสามารถในการปล่อยกู้ฉุกเฉินของไอเอ็มเอฟที่มีอยู่เดิมหรือ New Arrangements to Borrow หรือ NAB เพื่อให้มีวงเงินเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 5 แสนล้านดอลลาร์
รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า การที่จะทำให้เกิดความมั่นใจว่าจะเกิดการฟื้นตัวขึ้นนั้น ไอเอ็มเอฟจะต้องมีทรัพยากรและกลไกที่เพียงพอต่อการรับมือและแก้ปัญหาในตลาดเกิดใหม่และสมาชิกในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ สหรัฐสนับสนุนให้มีการใช้ทรัพยากรของไอเอ็มเอฟเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของประเทศต่างๆที่อนาคตทางการเงินมีความแข็งแกร่งอยู่ในระยะกลาง
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า การบรรลุเป้าหมายในการขยายขอบเขต NAB ถือเป็นเรื่องที่สำคัญของการประชุมครั้งนี้ นานาประเทศควรจะลงมือทำโดยเร็ว
ทั้งนี้ ไกธ์เนอร์พอใจที่นานาประเทศได้ให้ความร่วมมือ รวมถึงการลงนามทำข้อตกลงเพื่อขอยืมเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์จากญี่ปุ่น และการเสนอให้เงินกู้ในจำนวนใกล้เคียงกันนี้อีกจากประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปและสหรัฐ ซึ่งแผนการณ์ก็คือ การสนับสนุนเงินเข้าโครงการ NAB และขยายวงเงินจากเดิมที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 5.50 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือประเทศต่างๆในละติน อเมริกา ยุโรปตะวันออก และประเทศต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออกและการลงทุนจากต่างประเทศที่หดตัวลงอย่างมาก