บรรดาผู้ประกอบธุรกิจส่งออกในเอเชียอาจรอดพ้นภาวะวิกฤตที่เลวร้ายที่สุดแล้ว จากอานิสงส์ของความต้องการสินค้าจากประเทศจีนที่เริ่มดีขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ได้มีการปรับลดดอกเบี้ย และใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยยอดส่งออกของสิงคโปร์ไปยังประเทศจีนถีบตัวสูงขึ้น 29% ในเดือนมี.ค.จากระดับในเดือนก.พ. ส่วนยอดส่งออกจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวันเพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะที่บริษัทหลายแห่งไม่ว่าจะแป็นเอยู ออพโทรนิคส์ คอร์ป, นิสสัน มอเตอร์ โค และฮุนต่างคาดการณ์ยอดขายในจีนที่เพิ่มขึ้นด้วย
"ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนับเป็นนิมิตรหมายที่ดี" นักวิเคราะห์จากเอชเอสบีซี โฮลดิ้ง พีแอลซีในสิงคโปร์กล่าว "ความเปลี่ยนแปลงอันดับแรกของมาตรการกระตุ้นภาคการเงินและการลดดอกเบี้ยกำลังเกิดขึ้น"
ด้านธนาคารโลกเปิดเผยว่า การที่จีนใช้จ่ายเงินในการก่อสร้างถนน ทางยกระดับ และที่อยู่อาศัยอาจช่วยกระตุ้นการขยายตัวที่แข็งแกร่งในเอเชีย ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ อิงค์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้เป็น 8% จากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ 6%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดดอกเบี้ยลง 5 ครั้งนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีก่อนหน้านี้มาอยู่ที่ระดับ 5.31% ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนได้ประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์กล่าวว่า "เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของจีนได้ผลักดันการใช้นโยบายด้านการเงินแบบผ่อนปรนออกมามากขึ้น และเราคาดว่าการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศจะเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง"