นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ได้รับทราบสถานการณ์เนื้อสุกรมีราคาแพงและแนวทางแก้ไขตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าน่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น ๆเท่านั้น เตรียมเริ่มโครงการ"สุกรธงฟ้า"ขายตรงให้ผู้บริโภค
ราคาเนื้อสุกรสูงขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากในปี 52 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรประมาณการผลผลิตสุกรไว้จำนวน 11.765 ล้านตัว ลดลงจากปี 51 จำนวน 330,000 ตัว เนื่องจากเกษตรกรลดปริมาณการเลี้ยง จากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงขึ้นกว่าการปรับตัวขึ้นมาของราคาขาย และปัญหาการขาดสภาพคล่องหมุนเวียนของผู้เลี้ยงสุกร ขณะที่ปัญหาการค้าเนื้อสุกรในประเทศชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภค
ส่วนผลกระทบจากสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดจากประเทศเม็กซิโก ขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีมาตรการป้องกันการระบาดของโรค โดยชะลอการนำเข้าเนื้อสกุรจากประเทศเม็กซิโกและสหรัฐ พร้อมมีมาตรการเข้มงวดในการติดตามเฝ้าระวังความผิดปกติของสุกร
อย่างไรก็ตาม จากการที่ไทยผลิตสุกรเพื่อการบริโภคในประเทศเป็นหลักถึง 98% ของผลผลิต มีการนำเข้าเนื้อสุกรปรุงสุก ผลิตภัณฑ์แปรรูปเพื่อป้อนตลาดระดับสูงเพียงเล็กน้อย และส่วนใหญ่เป็นการนำเข้าจากประเทศอิตาลี จีน และเดนมาร์ก และนำเข้าเครื่องในสุกร จากประเทศเบลเยี่ยม เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย
ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาราคาเนื้อสุกรราคาสูงนั้น กระทรวงพาณิชย์จะติดตามตรวจสอบภาวะการค้าและราคาขายส่งขายปลีกอย่างใกล้ชิด พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมพื่อพิจารณาโครงสร้างราคาสุกรมีชีวิตและราคาขายส่งขายปลีกเนื้อสุกรให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตแต่ละช่วงการผลิต
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดงานเนื้อสุกรธงฟ้าเปิดตลาดให้ผู้เลี้ยงและผู้ผลิต จำหน่ายเนื้อสุกรราคาพิเศษโดยตรงแก่ผู้บริโภค