นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากเม็กซิโกที่ระบาดอยู่ในทวีปอเมริกาขณะนี้ หากมองในแง่การตลาดจะถือเป็นโอกาสในการส่งออกสินค้าอาหารชนิดอื่นของไทยเพิ่มขึ้น เช่น ไก่แช่แข็ง ไก่ปรุงสุก หรืออาหารทะเล เช่น กุ้งแช่แข็ง โดยเฉพาะส่งไปยังตลาดสหภาพยุโรป(EU) ที่มีมาตรการความปลอดภัยด้านอาหารสูง และอาจลดการบริโภคหมู และนำเข้าอาหารชนิดอื่นทดแทน
ทั้งนี้ยืนยันได้ว่าการบริโภคเนื้อหมูที่ปรุงสุกไม่มีโอกาสติดเชื้อดังกล่าว อีกทั้งหมูที่บริโภคส่วนใหญ่ในไทยเป็นการผลิตในประเทศ ส่วนเครื่องในหมูที่นำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย นั้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจเข้มก่อนการนำเข้าอยู่แล้ว ดังนั้นประชาชนไม่ควรวิตกกังวลมากจนเกินไป
"เรื่องไข้หวัดหมูที่แพร่ระบาดขณะนี้ เป็นไข้หวัดใหญ่ชนิดหนึ่งที่ติดต่อจากคนสู่คน ไม่ใช่จากหมูสู่คน และโอกาสที่คนจะเสียชีวิตมีเพียง 5-6% เท่านั้น เมื่อเทียบกับไข้หวัดนกที่มีโอกาสเสียชีวิตถึง 60% จึงไม่อยากให้ประชาชนกังวล ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์, เกษตร และสาธารณสุข ได้ประสานงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อหาวิธีป้องกันการแพร่ระบาด คุมเข้มการนำเข้า และคุณภาพหมูในประเทศ" นายศิริพลกล่าว
สำหรับการแก้ไขปัญหาเนื้อหมูราคาแพงขณะนี้นั้น กรมการค้าภายในจะหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับหมูทั้งระบบ เช่น ผู้เลี้ยง โรงชำแหละ พ่อค้าหมูหน้าเขียง เป็นต้น ในวันพรุ่งนี้(29 เม.ย.)เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป
ด้านนายประสาธน์ เอกบุญเขต ผู้บริหารบริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ ในเครือสหฟาร์ม กล่าวว่า ความต้องการบริโภคเนื้อไก่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หลังจากที่มีกระแสข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อดังกล่าวในต่างประเทศ และปัญหาเนื้อหมูราคาแพง แต่เชื่อว่า ราคาไก่คงปรับสูงขึ้นไม่มากหรือปรับขึ้นประมาณ 10% เท่านั้น
ขณะนี้ราคาเนื้อไก่ล้วนอยู่ที่ กก.ละ 58-60 บาท หากปรับขึ้นไม่น่าเกิน กก.ละ 70 บาท และยิ่งหากราคาหมูอ่อนตัวลง ไม่มีเหตุผลที่ราคาเนื้อไก่จะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว