การ์เบรียล คาสซิลาส์ นักวิเคราะห์ด้านการเงินจากธนาคารบังโค ยูบีเอส ในเมืองเม็กซิโกซิตี้ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก (swine flu) ส่งผลให้ค่าเงินเปโซร่วงลงอย่างหนัก และคาดว่าจะฉุดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ร่วงลงด้วย
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ค่าเงินเปโซแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 13.08 เซนต์สหรัฐ แต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ค่าเงินเปโซดิ่งลงที่ระดับ 14.07 เซนต์สหรัฐ หรือร่วงลงเกือบ 8% จากนั้นในวันอังคาร ค่าเงินเปโซดิ่งลงอีก 5.5% หลังจากรัฐบาลเม็กซิโกประกาศว่ายอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 152 คนแล้ว
"หากการระบาดของไวรัสไข้หวัดเม็กซิโกเป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นๆ ก็เป็นไปได้ที่ค่าเงินเปโซจะทรงตัวอยู่ที่ระดับนี้ แต่หากผลกระทบลุกลามออกไปในวงกว้าง ผมคาดว่าเงินเปโซจะดิ่งเหวถึงระดับ 15.0-15.50 เซนต์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นปัจจัยคุกคามเศรษฐกิจเม็กซิโก นอกจากนี้ ผมประเมินว่าในระยะ 10 วันของการแพร่ระบาดอาจทำให้ตัวเลขจีดีพีของเม็กซิโกหดตัวลง 0.2% แต่หากการแพร่ระบาดขยายตัวออกไปเป็น 15 วันหรือ 30 วัน จีดีพีก็จะหดตัวลง 0.8%" คาสซิลาส์กล่าว
คาสซิลาส์ยังกล่าวด้วยว่า เมืองเม็กซิโกซิตี้ได้รับผลกระทบหนักกว่าเมืองอื่นๆในประเทศ และเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ อุตสาหกรรมต่างๆของเม็กซิโกก็ถูกกระทบอย่างถ้วนหน้า โดยอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการขนส่งที่ถูกกระทบหนักที่สุด ซึ่งอุตสาหกรรมทั้งสองประเภทคิดเป็นสัดส่วนกว่า 66% ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ประธานหอการค้า บริการ และการท่องเที่ยวของเม็กซิโก ประเมินว่าการปิดโรงภาพยนตร์ งานสังคม ไนท์คลับ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกทำให้กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ได้รับความเสียหายมูลค่าอย่างน้อย 777 ล้านเปโซ หรือ 57 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ซึ่งชี้ให้เห็นว่า รายได้ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการนั้นอ่อนตัวลงถึง 36% สำนักข่าวเอพีรายงาน