ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบเยน หลัง FED ตรึงดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 30, 2009 07:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจและยังแสดงความเชื่อมั่นว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอาจจะทุเลาลง อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินปอนด์

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้น 1.14% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 97.480 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 96.380 เยนต่อดอลลาร์ แต่อ่อนตัวลง 0.64% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1359 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1432 ฟรังค์/ดอลลาร์

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.92% แตะระดับ 1.3265 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันอังคารที่ 1.3144 ดอลลาร์/ยูโร และเงินปอนด์พุ่งขึ้น 1.01% แตะระดับ 1.4772 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4625 ดอลลาร์/ปอนด์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 2.80% แตะระดับ 0.7257 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7059 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 2.60% แตะระดับ 0.5719 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5574 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนหลังจากเฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด นับตั้งแต่เดือนก.ค.ปีพ.ศ.2497 โดยมีเป้าหมายที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาะถดถอยนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีพ.ศ.2550

นอกจากนี้ คณะกรรมการเฟดออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่ามีสัญญาณบ่งชี้บางอย่างที่บ่งชี้ว่าภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอาจจะทุเลาลง โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นปานกลางตั้งแต่เดือนมี.ค. ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะตึงตัวในตลาดการเงินเริ่มบรรเทาลงแล้ว เฟดเชื่อว่าตลาดการเงินจะเริ่มมีเสถียรภาพขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลและเฟดร่วมมือกันใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและระบบการคลังภายในประเทศ นอกจากนี้ เฟดเชื่อว่าการที่สหรัฐมีกลไกตลาดที่ดี จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืนได้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาสแรกหดตัวลง 6.1% ต่อปี แต่รายงานระบุว่าการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น และสต็อกสินค้าคงคลังลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องเก็บสต็อกสินค้าเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงติดตามข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก (swine flu) อย่างระมัดระวัง หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐยืนยันว่า เด็กวัย 23 เดือนจากรัฐเท็กซัสเสียชีวิตแล้วหลังจากติดเชื้อไข้หวัดเม็กซิโก ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เม็กซิโกรายแรกในสหรัฐ และยังถือเป็นรายแรกนอกประเทศเม็กซิโก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ