"กรณ์"ไม่มั่นใจ 100% ศก.ไทยแตะจุดต่ำสุดใน Q1/52 แต่เริ่มเห็นสัญญาณดี

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 30, 2009 10:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจนักว่าภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1/52 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้หรือไม่ แม้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)จะประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาส 1/52 จะติดลบถึง 5% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ แต่ก็เห็นว่าขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากตัวเลขการเลิกจ้างที่ชะลอตัวลง

"ส่วนตัวยังมองสรุปไม่ได้ 100% ว่าไตรมาส 1 ปีนี้เศรษฐกิจจะเป็นจุดต่ำสุดหรือไม่ เพราะยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเศรษฐกิจโลกจะถึงจุดต่ำสุดเมื่อไร แต่ในที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ มองว่าตอนนี้มีสัญญาณที่ดีที่การเลิกจ้างชะลอตัวลงแล้ว"นายกรณ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลได้เร่งเดินหน้าออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ผ่านโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1.56 ล้านล้านบาทในระยะ 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวคิดเป็น 7-8% ของมูลค่าผลผลิตมวลรวมในประเทศ(จีดีพี)เชื่อว่าจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ภาคเอกชนจะมีการขยายการลงทุนตาม และส่งผลดีต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศในระยะยาว

รมว.คลัง กล่าวยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะดำเนินนโยบายในเชิงรุกในการเดินหน้าโครงการลงทุนดังกล่าว แม้ปัญหาหลักของโครงการลงทุนภาครัฐมักจะถูกตั้งคำถามว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ หลังจากหลายโครงการเกิดความล่าช้า และมักจะโยนความรับผิดชอบกันระหว่างนักการเมืองกับข้าราชการ จึงเป็นประเด็นที่ท้าทายของรัฐบาลที่ต้องเดินหน้าเรื่องนี้ให้ได้

"รัฐบาลจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบผ่านโครงการลงทุนนี้กว่า 1.56 ล้านล้านบาทใน 3 ปีข้างหน้า เน้นโครงการลงทุนเพื่อสร้างรายได้ให้ประชาชน ส่วนใหญ่เป็นระบบน้ำระบบชลประทาน และมีโครงการเล็กๆ เช่น ถนนปลอดฝุ่น ระบบคมนาคมขนส่ง...ปัญหาหลักของการลงทุนคือเมื่อมีนโยบายแล้วทำได้จริงหรือไม่ เพราะมีการพูดมาหลายปีแล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลจะเดินหน้า ปัญหาอยู่ที่การบริการจัดการ มักจะโทษกันไปมา ข้าราชการก็จะโทษว่าเพราะนักการเมือง นักการเมืองก็โทษข้าราชการ ก็เป็นความท้าทาย"รมว.คลัง กล่าว

อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะการลงทุนภาครัฐมีเพียง 20% ที่มีผลกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ขณะที่ 80% ต้องอาศัยการลงทุนจากภาคเอกชนเป็นหลัก

รมว.คลัง ยังกล่าวถึง ปัญหาการชะลอตัวของสินเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วโลกไม่เฉพาะไทย รัฐบาลมีหลายแนวทางที่จะกระตุ้นให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบมากขึ้น ซึ่งล่าสุดคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้อนุมัติให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(เอสเอ็มอีแบงก์)ปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยววงเงิน 5,000 ล้านบาท และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)ก็จะค้ำประกันสินเชื่อให้ภาคเอกชนกู้เงินเพื่อชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลกลางปี เพื่อช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ