เอสเค เทเลคอม ผู้ดำเนินธุรกิจโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้รายงานผลกำไรไตรมาสแรกที่ดิ่งหนักเกินคาดจากผลกระทบของเงินวอนที่อ่อนค่าลงจนส่งผลต่อรายได้ในการจัดเก็บค่าบริการ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า กำไรสุทธิไตรมาสแรกของเอสเค เทเลคอมลดลง 17% มาอยู่ที่ 3.167 แสนล้านวอน (240 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 3.829 แสนล้านวอนในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 1.4% มาอยู่ที่ 2.88 ล้านล้านวอน โดยตัวเลขผลกำไรน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 3.89 แสนล้านวอน
ณ เวลา 11:05 น.ตามเวลาท้องถิ่น หุ้นเอสเค เทเลคอมเพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 187,500 วอน โดยในปีนี้หุ้นของบริษัทลดลง 10%
ทั้งนี้ ผลกำไรจากการดำเนินงาน หรือยอดขายที่หักค่าใช้จ่ายต้นทุนต่างๆเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 5.64 แสนล้านวอน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.94 แสนล้านวอน ส่วนต้นทุนด้านการตลาด ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์มือถืออยู่ที่ 6.61 แสนล้านวอน เมื่อเทียบกับ 7.67 แสนล้านวอนในปีก่อนหน้านี้
นาธาน รามเลอร์ นักวิเคราะห์จากแมคไควรีย์กล่าวว่า "เราเชื่อว่าต้นทุนการตลาดที่ลดลงมีผลทำให้รายได้ของบริษัทชะลอตัว"
เอสเค เทเลคอม ซึ่งเข้าลงทุนในสหรัฐ จีน และเวียดนามกล่าวว่า บริษัทต้องการขยายการลงทุนไปยังตลาดต่างประเทศที่บริษัทจะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้เพื่อชดเชยกับรายได้ที่ชะลอตัวของตลาดในประเทศ โดยจำนวนผู้ใช้งานมือถือแบบจดทะเบียนของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเพียง 4.4% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นตัวการขยายตัวช้าสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2548
อย่างไรก็ตาม เอสเค เทเลคอมยังสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดมือถือของเกาหลีใต้ถึง 50.5% ในสิ้นเดือนมี.ค. ตามมาด้วยเคที ฟรีเทลที่ครองส่วนแบ่ง 31.5% ขณะที่อีก 18% เป็นของแอลจี เทเลคอม