สกุลเงินเอเชียทะยานแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ที่ว่าภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจโลกเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนมีความต้องการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น
เงินวอนของเกาหลีใต้และเงินรูเปียห์ของอินโดนีเซียพุ่งนำสกุลเงินเอเชียแข็งค่าขึ้นถ้วนหน้า หลังญี่ปุ่นเผยข้อมูลผลผลิตอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวดีขึ้น
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ไต้หวันยังถีบตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 6 เดือนหลังจากที่ไต้หวันเปิดทางให้จีนเข้ามาลงทุนได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุสงครามกลางเมืองสิ้นสุดลงในปี 2492
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:15 น.ตามเวลาท้องถิ่น เงินวอนแข็งค่าขึ้น 2.9% แตะที่ระดับ 1,302.75 ดอลลาร์/วอน ส่วนเงินรูเปียห์เพิ่มขึ้น 1.3% สู่ระดับ 10,705 ดอลลาร์/รูเปียห์ และเงินดอลลาร์ไต้หวันเดินหน้า 1.5% ไปอยู่ที่ 33.175 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ไต้หวัน
ราจีพ มาลิก นักวิเคราะห์จากแมคไควรีย์ กรุ๊ป ในสิงคโปร์ กล่าวว่า "เงินเอเชียทุกสกุลเคลื่อนไหวภายใต้ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ขณะที่การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจากประเทศต่างๆล้วนออกมาดีเกินความคาดหมาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเราได้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์เลวร้ายมาแล้ว แต่ถึงกระนั้นตลาดก็ยังไม่นิ่งและยังมีความไม่แน่นอนอยู่ด้วยเช่นกัน"
ทั้งนี้ ดัชนี Bloomberg-JPMorgan Asia Dollar Index ซึ่งใช้ชี้วัดบรรยากาศการซื้อขายสกุลเงินเอเชียแต่ไม่นับรวมเงินเยนของญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวขึ้น 0.4% โดยดัชนีเดินหน้าขึ้นปิดระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน ขณะที่ดัชนี MSCI Asia-Pacific Index ของตลาดหุ้นเอเชียถีบตัวขึ้น 3.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา