เจดี พาวเวอร์ คาดยอดขายรถยนต์เดือนเม.ย.ในสหรัฐร่วงต่อ แม้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัว

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 30, 2009 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เจดี พาวเวอร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ประจำเดือนเม.ย.ในสหรัฐจะยังคงร่วงลงราว 37% เช่นเดียวกับในเดือนมี.ค. ซึ่งแม้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว แต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ชาวอเมริกันยังไม่กล้าลงทุนซื้อรถยนต์ในระยะนี้

สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 39.2 จุด จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 26.9 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 29.8 จุด

ขณะที่ เอบีซี นิวส์ เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นสู่ระดับ -45 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปีนี้ แม้ยังคงอยู่ในระดับที่ติดลบ เมื่อเทียบกับระดับ -47 ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

เจดี พาวเวอร์ระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐช่วง 16 เดือนแรกของเดือนเม.ย.ปีนี้ดิ่งลง 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก โดยยอดขายรถยนต์น้ำหนักเบาอยู่ที่ระดับ 657,000 คัน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ายอดขายรถยนต์ในสหรัฐอาจร่วงลงหนักสุดในรอบ 27 ปี

นอกจากนี้ เจดี พาวเวอร์คาดว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐในเดือนเม.ย.จะมีอยู่ทั้งสิ้น 668,000 คัน หรือ 7.8 ล้านคันต่อปี ซึ่งปรับตัวลดลง 33% จากปีที่แล้ว ส่วนรถขายรถยนต์สำหรับอุตสาหกรรมในเดือนเม.ย.คาดว่าจะอยู่ที่ 853,000 คันซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี หรือ 9.7 ล้านคันต่อปี

อย่างไรก็ตาม แกรี่ ดิลท์ รองประธานเจดี พาวเวอร์กล่าวว่า "ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐจะมีเสถียรภาพขึ้นหลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี หรือที่ระดับ 7.8 ล้านคันในช่วง 3 เดือนที่แล้ว เรายังคงมีมุมมองในด้านบวกว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยคาดว่ายอดขายรถยนต์ในปีนี้จะพุ่งเป็น 8.5 ล้านคัน และยอดขายรถยนต์ขนาดเล็กจะเพิ่มขึ้นเป็น 10.4 ล้านคันในปีนี้"

ก่อนหน้านี้ อโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยอุตสาหกรรมรถยนต์ชื่อดังของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่เดือนม.ค.ในสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 27 ปี โดยยอดขายจากค่ายรถยนต์ของสหรัฐและญี่ปุ่นปรับตัวลงกว่า 25%

รายงานประจำเดือนของออโต้ดาต้าระบุว่า ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐของผู้ผลิตทุกค่ายร่วงลง 37.1% ในเดือนม.ค. เหลือเพียง 656,976 คัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 27 ปี และเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 15 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายในยามที่เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ยอดขายรถยนต์ในค่ายบิ๊กทรีซึ่งได้แก่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม), ฟอร์ด มอเตอร์ และไครสเลอร์ แอลแอลซี ดิ่งลง 47.7% แตะที่ 279,531 คัน โดยส่วนแบ่งตลาดของค่ายบิ๊กทรีร่วงลงในเดือนม.ค.มีอยู่เพียง 42.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากเดือนธ.ค.ที่ 49.3%

ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ของจีเอ็มทรุดตัวลง 48.9% แตะที่ 127,243 คันในเดือนม.ค. ขณะที่ยอดขายของฟอร์ดดิ่งลง 39.0% แตะที่ 90,131 คัน และยอดขายของไครสเลอร์ร่วงลง 54.8% เหลือเพียง 62,157 คัน โดยจีเอ็มและไครสเลอร์เปิดเผยว่า ยอดขายที่ทรุดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญอาจทำให้ทั้งสองบริษัทต้องระดมทุนเพิ่มอีก

ส่วนยอดขายรถยนต์ของญี่ปุ่นในสหรัฐนั้น ค่ายยักษ์ใหญ่อย่างโตโยต้า มอเตอร์ มียอดขายร่วงลง 31.7% เหลือเพียง 117,287 คัน ซึ่งปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 9 ขณะที่ยอดขายของฮอนด้า มอเตอร์ ร่วงลง 27.9% แตะที่ 71,031 คัน ยอดขายของนิสสันดิ่งลง 29.7% เหลือเพียง 3,884 คัน มาสด้ามอเตอร์ ลดลง 27.3% แตะที่ 15,420 คัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ร่วงลง 34.5% แตะที่ 4,730 คัน ซูซูกิ มอเตอร์ ร่วงลง 48.7% แตะที่ 3,655 คัน และอีซูซุ มอเตอร์ส ร่วงลง 61.9% เหลือเพียง 165 คัน สำนักข่าวเอพีรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ