ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐเดือนเม.ย.ทรุดฮวบ 34.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ข่าวต่างประเทศ Saturday May 2, 2009 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐช่วงเดือนเม.ย.ร่วงลง 34.4% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ โดยที่ยอดขายรถของไครสเลอร์ดิ่งลงหนักสุดเกือบ 50%

ออโต้ดาต้า คอร์ป บริษัทวิจัยของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถในสหรัฐเดือนเม.ย.มีอยู่เพียง 819,540 คันทำสถิติลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 โดยค่ายบิ๊กทรีอย่าง เจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ฟอร์ด มอเตอร์ และไครสเลอร์มียอดขายรวมกันที่ 377,416 คัน ซึ่งทรุดฮวบลง 36.6% สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดขายของไครสเลอร์ดิ่งลงหนักสุด 48.1% มาอยู่ที่ 76,682 คัน โดยบริษัทเพิ่งยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์จากการล้มละลายตามมาตรา 11 เพื่อปรับโครงสร้างบริษัทด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลกกับค่ายรถอิตาลี เฟียต เอสพีเอ

ขณะที่ยอดขายของจีเอ็มในเดือนเม.ย.ตกลง 33.1% มาอยู่ที่ 171,258 หลังจากที่หดตัวลง 44.5% ในเดือนมี.ค. ขณะที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายทั่วโลกในเดือนเม.ย.-มิ.ย.จากระดับ 1,513,000 คันเป็น 1,458,000 คัน ซึ่งจะเป็นการปรับตัวลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ส่วนฟอร์ดมียอดขายร่วงลง 31.3% ที่ระดับ 129,476

นอกจากค่ายรถของสหรัฐแล้ว บริษัทรถยนต์ของญี่ปุ่นต่างรายงานยอดขายที่ตกต่ำอย่างหนักไม่แพ้กัน โดยโตโยต้า มอเตอร์ประสบปัญหายอดขายทรุดฮวบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ซึ่งล่าสุดยอดขายตกลง 41.9% มาอยู่ที่ 126,540 คัน และทำสถิติดิ่งลงมากกว่าระดับ 40% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2523

ขณะที่ยอดขายของฮอนด้าลดลง 25.3% แตะ 101,029 คัน และนิสสัน มอเตอร์มียอดขายตกลง 37.8% เหลือเพียง 47,190 คัน

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ด้านการใช้จ่ายส่วนบุคคลที่ซบเซา ประกอบการยอดการขอสินเชื่อรถยนต์ที่ลดลงอันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยนั้นได้สร้างแรงกดดันให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอย่างต่อเนื่องจนส่งผลกระทบให้ยอดขายดิ่งลงติดต่อกันมาเป็นเวลานาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ