ซีแอลเอสเอ เอเชีย-แปซิฟิค มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า ภาคการผลิตของจีนกลับมาขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน หลังจากที่การลงทุนพุ่งสูงขึ้น และยอดการส่งออกที่ชะลอตัวลงนั้นเริ่มจะดีขึ้นแล้ว
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ซึ่งจัดทำโดย CLSA ปรับตัวขึ้นแตะ 50.1 จุดในเดือนเม.ย. จากระดับมี.ค.ที่ 44.8 จุด ซึ่งตัวเลขที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ถึงการขยายตัว ซึ่งถือเป็นการขยายตัวในภาคการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน
การดีดตัวในภาคการผลิตนั้นนับเป็นอีกสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งได้รับผลกระทบการค้าทั่วโลกที่หดตัวลง รวมถึงการลงทุนและการก่อสร้างด้านอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนตัวลง โดยดัชนีผลผลิตเพิ่มขึ้นแตะ 51.3 จุด จากเดิมที่ 44.3 จุด นับเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 9 เดือน ส่วนมาตรวัดยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้นแตะระดับ 48.8 จุด จากระดับ 41.4 จุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า เอริค ฟิชวิค หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านเศรษฐกิจของ CLSA กล่าวว่า รัฐบาลจีนประสบความสำเร็จในการกระตุ้นการลงทุน ยอดสั่งซื้อสินค้าส่งออกที่พุ่งสูงขึ้นนี้ถือเป็นอีกปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังของการดีดตัวขึ้น
การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 ล้านล้านหยวน หรือ 5.86 แสนล้านดอลลาร์ช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน โดยเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ในเมืองเพิ่มขึ้นถึง 30% จากระดับปีที่แล้ว การขยายตัวด้านผลผลิตอุตสาหกรรมเมื่อเดือนมี.ค.ก็เพิ่มขึ้น รวมทั้งยอดปล่อยเงินกู้ใหม่ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าในไตรมาสแรก แตะ 4.58 ล้านล้านหยวน หรือ 6.70 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดเผยดัชนี PMI ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาล ซึ่งข้อมูลดังกล่าวก็บ่งชี้ให้เห็นเช่นเดียวกันว่า ภาคการผลิตของประเทศขยายตัวขึ้น
โดยสมาพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อแห่งชาติจีน (CFLP) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ในภาคการผลิตของจีน อยู่ที่ระดับ 53.5% ในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.1% จากระดับ 52.4 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ดัชนี PMI ดีดขึ้นเหนือระดับ 50% นับตั้งแต่เดือนก.ค.2551