กลุ่มประเทศอาเซียนบวก 3 ซึ่ง รวมถึงจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เตรียมจัดตั้งกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 1.2 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะสามารถรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นในที่ประชุมประจำปีของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ที่อินโดนีเซีย
-- เฟียต เอสพีเอ บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติอิตาลีซึ่งอยู่ในระหว่างดำเนินการเข้าถือหุ้นใน ไครสเลอร์ แอลแอลซี อาจตัดสินใจแยกแผนกยานยนต์ออกไปตั้งเป็นบริษัท หากสามารถซื้อธุรกิจยานยนต์ในยุโรปของ เจเนอรัล มอเตอร์ คอร์ป (จีเอ็ม) ได้สำเร็จ
-- ยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ในประเทศต่างๆทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่ 1,018 ราย โดยในเม็กซิโกนั้น พบผู้ติดเชื้อ 590 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 22 ราย ส่วนแคนาดา พบผู้ติดเชื้อ 101 ราย ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงสุดอันดับ 3 ของโลกรองลงมาจากเม็กซิโกและสหรัฐ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน
-- ผลกำไรสุทธิรวมของบริษัทจีน 1,624 แห่งที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นพุ่งแตะ 2.038 แสนล้านหยวน (ราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในไตรมาสแรกของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 450.39% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
-- สำนักงานสถิติออสเตรเลียเผยราคาบ้านในออสเตรเลียไตรมาส 1 ปี 2552 ร่วงลง 6.7% ซึ่งถือเป็นการลดลงมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2533 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยส่งผลให้อัตราว่างงานพุ่งขึ้นและทำให้ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงตามไปด้วย โดยราคาบ้านในไตรมาส 4 ปีที่แล้ว อ่อนตัว 3.9%
-- ทางการจีนออกโรงชี้แจงว่าจำเป็นต้องกักตัวนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกันจำนวนหนึ่งไว้ที่โรงพยาบาลเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือสายพันธุ์ A (H1N1) เนื่องจากชายคนหนึ่งในนั้นเป็นผู้ติดเชื้อ
-- ดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ออกโรงปกป้องนโยบายการสอบสวนผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายสมัยรัฐบาลบุช โดยกล่าวว่าอดีตประธานาธิบดีบุชไม่มีวันอนุญาตให้ทำอะไรที่ขัดต่อกฎหมายอย่างแน่นอน
-- มาร์ค โมเบียส ผู้จัดการกองทุนชื่อดังและประธานบริษัท เทมเพิลตัน แอสเส็ท แมเนจเมนท์ คาดหุ้นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่จะปรับตัวขึ้นอย่างคึกคักและเข้าสู่ภาวะตลาดกระทิงในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดต่ำลงและเงินเฟ้อที่คลี่คลายลง ส่งผลให้หุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นในสายตาของนักลงทุน ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอาจฉวยโอกาสตอนหุ้นร่วง