ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นและการคาดการณ์เรื่องช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดของวิกฤตเศรษฐกิจโลกอาจจะผ่านพ้นไปแล้วนั้นอาจจะทำให้ความต้องการเงินดอลลาร์ลดลงตามไปด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3401 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับเมื่อวันศุกร์ที่ 1.3263 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์ขยายตัวแตะระดับ 1.5006 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.4917 ดอลลาร์/ปอนด์
ด้านเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแตะที่ 98.940 เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 99.080 เยน/ดอลลาร์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.1265 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1350 ฟรังค์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7394 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.7304 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และดอลลาร์นิวซีแลนด์ไต่ขึ้นแตะระดับ 0.5739 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5707 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืน ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สูงกว่าคาดการณ์ หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดงบประมาณการก่อสร้างเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุด นับตั้งแต่ที่ยอดงบประมาณปรับตัวขึ้นเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้ว
ขณะที่สมาคมนายหน้าซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า ยอดการทำสัญญาซื้อบ้านเพื่อรอปิดการขายในเดือนมี.ค.สูงขึ้น 3.2% แตะ 84.6 จุด ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หลังจากที่ดิ่งลงอย่างหนักเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา