ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เยน และฟรังค์สวิส ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) หลังจากเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นภายในปลายปีนี้ นอกจากนี้ การที่ดัชนีภาคบริการหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์ดีดตัวขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 98.960 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 98.920 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้น 0.57% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.1324 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.1260 ฟรังค์/ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.58% แตะระดับ 1.3324 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3402 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.36% แตะระดับ 1.5081 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.5027 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.39% แตะระดับ 0.7428 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.7399 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.97% แตะระดับ 0.5807 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.5751 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่าดัชนีภาคบริการอยู่ที่ระดับ 43.7 จุด ในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 40.8 จุด ซึ่งดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 ยังคงบ่งชี้ถึงการหดตัวในภาคบริการ นอกจากนี้ ดัชนีภาคบริการเดือนเม.ย.ยังหดตัวลงติดต่อกันยาวนานถึง 7 เดือน
ขณะที่ ABC News เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 3 พ.ค. โดยดัชนี Consumer Comfort Index เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนที่ -43 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากระดับ -45 ในสัปดาห์ก่อนหน้า
นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการที่เบอร์นันเก้ ประธานเฟดแถลงต่อสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นภายในปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยอัตราว่างงานในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.9% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) จะร่วงลงอย่างน้อย 600,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 5 เดือน และสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานในสหรัฐยังคงถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย