สำนักงานสถิติออสเตรเลียเปิดเผยว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนมี.ค.ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ขณะที่ยอดการนำเข้าร่วงลงและยอดการส่งออกสินค้าการเกษตรปรับตัวสูงขึ้น โดยยอดเกินดุลการค้าของออสเตรเลียขยายตัวสู่ระดับ 2.5 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับเกินดุลการค้าเดือนก.พ.ที่ 1.75 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กสำรวจความคิดเห็นและคาดการณ์ว่า จะอยู่ที่ 1.7 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
ยอดเกินดุลการค้าที่สูงขึ้นจากการส่งออกถ่านหินและสินแร่เหล็กอาจจะช่วยให้เศรษฐกิจออสเตรเลียหลุดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งแรกได้เร็วขึ้นกว่าประเทศอื่นๆ เกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 3% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และชี้ว่า การลดดอกเบี้ยเงินกู้และการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐฐาลจะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ร็อบ เฮนเดอร์สัน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงค์ กล่าวว่า ขณะที่การส่งออกของยุโรป เอเชีย และอเมริกาดิ่งลง แต่การส่งออกของออสเตรเลียยังทรงตัวอยู่ได้
ทั้งนี้ การนำเข้าของออสเตรเลียร่วงลง 3% เหลือ 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนการนำเข้าเครื่องจักร ตกลง 12% สำหรับการส่งออกในเดือนมี.ค.นั้นเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย การส่งออกสินค้าด้านการเกษตรเพิ่มขึ้น 10% ขณะที่การส่งออกถ่านหินตกลง 5%
ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในระยะใกล้นี้ยังคงอ่อนตัว แต่ก็มีสัญญาณเพิ่มเติมมากขึ้นถึงเสถียรภาพในหลายประเทศ โดยเศรษฐกิจจีนนั้นฟื้นตัวขึ้นเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และราคาสินค้าโภคภัณฑ์จำนวนมากก็ทรงตัวขึ้น
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย และส่งสัญญาณการฟื้นตัวที่เป็นบวก หลี่ หยง รัฐมนตรีช่วยคลังจีนกล่าวว่า รัฐบาลจะยังคงใช้นโยบายต่างๆเพื่อฟื้นฟูการขยายตัว หลังจากที่ไตรมาสแรก เศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.1%