เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการร่วมทางเศรษฐกิจแห่งสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นภายในปลายปีนี้ แม้ตัวเลขว่างงานยังคงพุ่งสูงขึ้นก็ตาม
"ผมมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้าน ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค และอัตราการปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ที่สูงขึ้น ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้ล้วนแล้วแต่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วขึ้น ส่วนกิจกรรมเศรษฐกิจในด้านอื่นๆนั้นผมคาดว่า จะฟื้นตัวขึ้นด้วยเช่นกัน" เบอร์นันเก้กล่าวต่อคณะกรรมาธิการฯแห่งสภาคองเกรส
เบอร์นันเก้เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ระยะแรกของการฟื้นตัว หลังจากเฟดอัดฉีดเม็ดเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดการเงิน ซึ่งช่วยให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวลดลง ขณะที่รัฐบาลของบารัค โอบามา ใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวขึ้นจะช่วยให้ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 70%ของระบบเศรษฐกิจ ปรับตัวขึ้นด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับ 61.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว จากเดือนมี.ค.ที่ 57.3 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 58.5 จุด
"ผมไม่เพียงแต่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทุเลาลงในปีนี้เท่านั้น แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง และคาดว่าระบบการธนาคารจะเริ่มมีเสถียรภาพขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ในระยะไตรมาสที่ 2 และ 3 นี้ การทรุดตัวลงของตลาดการเงินและอัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นอาจถ่วงเศรษฐกิจให้ชะลอตัวลง แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงได้ผ่านพ้นไปแล้ว" เบอร์นันเก้กล่าว
กระทรวงแรงงานสหรัฐเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานประจำเดือนเม.ย.ในคืนวันศุกร์ตามเวลาประเทศไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานเดือนเม.ย.จะพุ่งขึ้นแตะระดับ 8.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 25 ปี และคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) จะร่วงลงอย่างน้อย 600,000 ตำแหน่ง ซึ่งจะเป็นการร่วงลงติดต่อกันยาวนานถึง 5 เดือน และสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานในสหรัฐยังคงถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการเฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวประมาณ 0.5-1.3% ในปีนี้ มากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวเพียง 0.2-1.1% โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัวตลอดทั้งปี 2552 ซึ่งเป็นสถิติที่หดตัวทั้งปีเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี และคาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะพุ่งขึ้นสู่ระดับ 8.5-8.8% สูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 7.1-7.6% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน