หนังสือพิมพ์ ไชน่า เดลี่ รายงานว่า บริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำหลายแห่งเปิดเผยตัวเลขยอดขายที่สดใสในเดือนเม.ย. แสดงให้เห็นว่าตลาดยานยนต์ในประเทศหลุดจากภาวะซบเซาแล้ว หลังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มให้ผล
โดยเจเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ในจีนพุ่งกว่า 50% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 151,084 คัน ซึ่งถือว่าปรับตัวสูงขึ้นมากเป็นประวัติการณ์เมื่อพิจารณาเป็นรายเดือน
ส่วนบริษัทคู่แข่งอย่าง โฟล์คสวาเกน ก็คาดว่าจะมียอดขายรายเดือนพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน โดยวินฟรีด วาห์แลนด์ ซีอีโอของบริษัท คาดการณ์ว่ายอดขายเดือนเม.ย.จะมากกว่าเดือนมี.ค.ซึ่งอยู่ที่ระดับ 112,466 คัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัทในปัจจุบัน
"นั่นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดยานยนต์ในจีนเริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางแล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตต่อไปในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้" จง ฉี นักวิเคราะห์ยานยนต์อิสระ กล่าว
ในขณะเดียวกัน ฮุ่ย หยูเหม่ย นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยตลาดยานยนต์ ซิโนทรัสท์ คาดการณ์ว่า ยอดขายยานยนต์จะเติบโตต่อเนื่องในเดือนพ.ค. และยอดขายรวมของปีนี้อาจพุ่งสูงเกิน 10 ล้านคัน โดยนักวิเคราะห์ทั้งสองคนเชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลซึ่งมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับเวลาเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนให้ยอดขายยานยนต์เพิ่มขึ้น
ยอดขายรถยนต์ในจีนที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งช่วงไตรมาสแรกแซงหน้ายอดขายในสหรัฐ ส่งผลให้จีนเป็นประเทศที่มียอดขายรถยนต์มากสุดในโลกในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้ สมาคมยานยนต์แห่งประเทศจีนจะเปิดเผยตัวเลขยอดขายรถยนต์อย่างเป็นทางการในวันศุกร์นี้หรือไม่ก็วันจันทร์หน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน