นางหิรัญญา สุจินัย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตเอทานอลและการผลิตกระแสไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล รวม 5 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 2,548 ล้านบาท คาดว่าจะก่อให้เกิดการใช้วัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรในประเทศไม่ต่ำกว่า 1,190 ล้านบาท/ปี
กิจการที่ได้รับการส่งเสริมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การผลิตเอทานอล 99.5% ของบริษัทในเครือน้ำตาลไทยรุ่งเรือง ใช้วัตถุดิบจากกากน้ำตาล โดยเป็นการลงทุนใน 2 บริษัท มูลค่าเงินลงทุนรวม 1,332 ล้านบาท ได้แก่ บริษัท บ้านไร่พลังงาน จำกัด เงินลงทุน 666 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.อุทัยธานี และบริษัท ฟิวเจอร์ ฟูเอล จำกัด เงินลงทุน 666 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ กำลังการผลิต 43,800,000 ลิตร/ปี/แห่ง ซึ่งจะมุ่งเน้นการจำหน่ายทั้งในประเทศ และการส่งออกไปต่างประเทศ
ส่วนการอนุมัติส่งเสริมการลงทุนในกิจการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล จำนวน 3 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 1,216.40 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท กรีนไบโอ เอ็นเนอร์จี 19 จำกัด ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวลขนาด 6 เมกะวัตต์ โดยใช้แกลบเป็นวัตถุดิบ เงินลงทุน 340 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นการผลิตไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานและส่วนหนึ่งจะจำหน่ายให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
บริษัท สตาร์ พาวเวอร์ แพลนท์ จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนใน 2 โครงการ ตั้งอยู่ที่ จ.ตาก ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าแบบพลังงานร่วมใช้แกลบเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังการผลิต 8.9 เมกะวัตต์ เงินลงทุนทั้งสิ้น 696.4 ล้านบาท และโครงการลงทุนผลิตไฟฟ้าจากไอน้ำเชื้อเพลิงชีวมวลกำลังผลิต 8.9 เมกกะวัตต์ เงินลงทุน 180 ล้านบาท
"ความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและศักยภาพในการเป็นฐานรองรับการผลิตพลังงานทดแทนของไทย ที่มีความพร้อมด้านของวัตถุดิบทางด้านการเกษตรอย่างเพียงพอ แม้ปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจจะไม่ดี และมีปัญหาการเมือง แต่คาดว่าการลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับพลังงานและพลังงานทดแทนจะยังเป็นเป้าหมายหลัก และเป็นกลุ่มหลักที่มีการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น" นางหิรัญญา กล่าว