บีเอ็มดับเบิลยู (BMW) ค่ายรถหรูรายใหญ่ที่สุดในโลกจากเยอรมนีรายงานตัวเลขขาดทุน 2 ไตรมาสซ้อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยฉุดรั้งอุปสงค์รถยนต์ซีดานและยานยนต์สปอร์ตอเนกประสงค์
โดยบีเอ็มดับเบิลยู รายงานตัวเลขขาดทุนไตรมาสแรกที่ 152 ล้านยูโร (202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือ 23 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับที่ทำกำไรได้ 487 ล้านยูโร หรือ 74 เซนต์/หุ้นในปีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขขาดทุนดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จากโพลล์บลูมเบิร์กคาดการณ์ไว้ว่าจะขาดทุนถึง 268 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ เมื่อไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาบีเอ็มดับเบิลยูประสบภาวะขาดทุนครั้งแรกในรอบ 8 ปีที่ 963 ล้านยูโร โดยขณะนี้บริษัทกำลังปรับลดการใช้จ่ายและปลดพนักงานเนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำได้ฉุดรั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เผชิญช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลาย 10 ปี โดยยอดขายรถยนต์ในสหรัฐซึ่งเป็นตลาดใหญ่สุดของบีเอ็มดับเบิลยูนั้นตกลง 34% ในเดือนเม.ย. ซึ่งทำสถิติลดลง 18 เดือนติดต่อกัน
ขณะเดียวกัน ในปีนี้บริษัทได้ลดการผลิตรถลง 78,000 คัน หลังจากได้สั่งลดชั่วโมงทำงานของพนักงาน 26,000 คนที่โรงงานในประเทศ
ด้านมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับเครดิตหนี้สินระยะยาวของบีเอ็มดับเบิลยูลงมาอยู่ที่ระดับ A3 พร้อมมองถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดอันดับเครดิตด้านอื่นๆลงอีก โดยอ้างถึงภาวะอุปสงค์รถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูที่ทรุดฮวบอย่างหนัก