แหล่งข่าววงในจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนในการทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) ของ 19 ธนาคารยักษ์ใหญ่เปิดเผยข้อมูลก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผล stress test อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดี ว่า สถานะทางการเงินของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนในตลาดเงินและตลาดหุ้นนิวยอร์กคลายความวิตกกังวล
แหล่งข่าวระบุว่าบริษัท อเมริกัน เอ็กซ์เพรส (เอเม็กซ์), เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป ไม่จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม ส่วนแบงค์ ออฟ อเมริกา และธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเช่นกัน
ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปจะต้องเพิ่มทุนอีก 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าที่มีการประเมินไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1 หมื่นล้านดอลลาร์เนื่องจากซิตี้กรุ๊ปได้วางแผนไว้แล้วว่า จะแปลงหุ้นบุริมสิทธิ์เป็นหุ้นสามัญ ส่วนเรเจียนส์ ไฟแนนเชียล คอร์ป จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเช่นกัน
ข่าววงในที่เล็ดรอดออกมาก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผล stress test อย่างเป็นทางการในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีที่ 7 พ.ค.นี้ ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคการธนาคารของสหรัฐ และยังหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 101.63 จุด หรือ 1.21% แตะที่ 8,512.28 จุดเมื่อคืนนี้ อีกทั้งหนุนสัญญาทองคำและน้ำมันดิบปิดทะยานขึ้นถ้วนหน้า
ภายหลังจากการเปิดเผยผลทดสอบ stress test ในวันพฤหัสบดีแล้ว ธนาคารที่ไม่ต้องการรับเงินอัดฉีดจากรัฐบาลสหรัฐจะต้องแสดงหลักฐานยืนยันว่าทางธนาคารสามารถออกตราสารหนี้ให้กับนักลงทุนทั่วไปโดยไม่ต้องให้บรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp:FDIC) รับประกันตราสารหนี้ นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยเงื่อนไขการชำระเงินคืนให้กับโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) ให้ธนาคารต่างๆทราบในวันพฤหัสบดีเช่นกัน
เคนเนธ โรกอฟฟ์ อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่ภาควิชาเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "รัฐบาลสหรัฐพยายามใช้ 'นโยบายเชิงจิตวิทยา' เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน พวกเขาต้องการให้ประชาชนไม่วิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยและสถานะทางการเงินของธนาคารภายในประเทศมากเกินไป ซึ่งความพยายามดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะสกัดกั้นการเทขายในตลาดหุ้น"
อย่างไรก็ตาม โฆษกของเอเม็กซ์, เจพีมอร์แกน และแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว ขณะที่โฆษกของรีเจียนส์ ไฟแนนเชียล ก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเช่นกัน
นอกจากนี้ เดวิด สคิดมอร์ โฆษกของเฟดก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวที่เล็ดรอดออกมาก่อนที่จะประกาศผล stress test อย่างเป็นทางการ เพราะเกรงว่าจะเป็นการละเมิดกฎข้อเฟดที่ไม่ให้แพร่งพรายข้อมูลใดๆก่อนกำหนด ขณะที่โฆษกของกระทรวงการคลังสหรัฐก็ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเช่นกัน
stress test เป็นแนวความคิดของคณะทำงานบารัค โอบามา ที่ต้องการประเมินว่าสถาบันการเงินแต่ละแห่งมีเงินทุนเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ รายชื่อธนาคารยักษ์ใหญ่ทั้ง 19 แห่งที่จะเข้ารับการตรวจสอบ stress test มีดังนี้ อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, แบงค์ ออฟ อเมริกา คอร์ป, แบงค์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป, ซิตี้กรุ๊ป อิงค์, โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, มอร์แกน สแตนลีย์, บีบีแอนด์ที คอร์ป, แคปิตอล วัน ไฟแนนเชียล คอร์ป, ฟิทช์ เธิร์ด แบงคอร์ป, จีเอ็มเอซี แอลแอลซี, เมทไลฟ์ อิงค์, คีย์คอร์ป, พีเอ็นซี ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป, รีเจียนส์ ไฟแนนเชียล คอร์ป, สเตท สตรีท คอร์ป, ซัน ทรัสต์ แบงค์ อิงค์, ยู.เอส.แบงคอร์ป และเวลล์ส ฟาร์โก แอนด์ โค สำนักข่าวเอพีรายงาน