ผลผลิตแรงงานสหรัฐอาจปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทต่างๆ มีแนวโน้มว่าจะกระตุ้นให้พนักงานทำงานอย่างเต็มที่ในช่วงภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยเช่นนี้
โดยนักเศรษฐศาสตร์ 61 ท่านจากการสำรวจของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ผลผลิตแรงงาน ซึ่งเป็นตัววัดผลการทำงานของแรงงานแต่ละคนใน 1 ชั่วโมง อาจปรับตัวสูงขึ้น 0.6% ในไตรมาสแรก หลังจากที่หดตัวลง 0.4% ในปลายปีที่แล้ว
ปัจจุบันหลายบริษัทกำลังพยายามประคองตัวเองในช่วงเศรษฐกิจถดถอยด้วยการลดเงินเดือนและชั่วโมงทำงานเพื่อลดต้นทุนแรงงานและเพิ่มกำไร แม้ว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวอีกครั้งในช่วงปลายปีก็ตาม
"หลายบริษัทกำลังปรับโครงสร้างองค์กรกันเป็นการใหญ่" สก็อตต์ บราวน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากบริษัท เรย์มอนด์ เจมส์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ฟลอริด้า กล่าว
กระทรวงแรงงานจะเปิดเผยตัวเลขผลผลิตแรงงานอย่างเป็นทางการในเวลา 8.30 น.ตามเวลาวอชิงตัน โดยค่าเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ที่หดตัว 1% ถึงขยายตัว 3%
ในขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานก็เตรียมเปิดเผยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะอยู่ที่ราว 635,000 ราย และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการทั้งครั้งแรกและต่อเนื่องอาจพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.35 ล้านราย
ทั้งนี้ หลายบริษัทยังคงลดการจ้างงานอย่างต่อเนื่องในไตรมาสนี้ ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานคงเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่ฟื้นตัวช้าที่สุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน