นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐเปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์ 19 รายใหญ่ของสหรัฐที่ได้รับการทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) ของรัฐบาลนั้นไม่มีรายได้ที่อยู่ในสภาพล้มละลาย ซึ่งข่าวดีนี้จะเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่ช่วยยืนยันว่า ตลาดเงินสหรัฐยังมีความแข็งแกร่ง
"ผมคิดว่าผล stress test จะออกมาดี ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจต่อระบบการเงิน" ไกธ์เนอร์กล่าว "ไม่มีธนาคารใดสุ่มเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะล้มละลาย"
อย่างไรก็ตาม ไกธ์เนอร์กล่าวว่า มีสถาบันการเงินสหรัฐบางแห่งจำเป็นต้องเพิ่มทุน แต่เป็นวงเงินที่สามารถดำเนินการได้ไม่ยาก โดยสามารถระดมทุนผ่านการออกหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมหรือเสนอให้กับผู้ถือหุ้นรายใหม่ หรืออาจแปลงหุ้นบุริมสิทธิ์ที่ถือโดยนักลงทุนเอกชนหรือรัฐบาลไปเป็นหุ้นสามัญ ตลอดจนซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งกระบวนการทั้งหมดสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องพึ่งพารัฐบาลกลาง แต่หากธนาคารไม่สามารถระดมทุนได้สำเร็จก็สามารถขอเงินทุนช่วยเหลือจากรัฐบาลได้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป อาจต้องระดมทุนมากสุดในบรรดาธนาคารทั้งหมดด้วยยอดระดมทุนที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับ ซิตี้กรุ๊ป อิงค์, เวลส์ ฟาร์โก และ จีเอ็มเอซี แอลแอลซี ที่ต้องระดมทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
"การรายงานผลทดสอบสถานะทางการเงินจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลในภาคสถาบันการเงินได้อย่างมากและจะช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นชาวอเมริกาว่าสถาบันการเงินจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ โดยรัฐบาลจะถือหุ้นในธนาคารเหล่านี้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มเงินทุนหรือแปลงหลักทรัพย์บุริมสิทธิ์ หากมีความจำเป็น" ไกธ์เนอร์กล่าว
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยผลการทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงินของธนาคารพาณิชย์สหรัฐในวันนี้(ตามเวลาท้องถิ่น) หรือคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย