บริษัท Cia. Vale do Rio Doce หรือ Vale ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินแร่เหล็กรายใหญ่สุดของโลกคาดว่า การลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองทั่วโลกอาจจะร่วงลงถึง 6 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ หลังจากที่บริษัทสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 โดยการลงทุนอาจจะร่วงลงถึง 55% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากวิกฤตสินเชื่อโลก
ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทยังลดลงถึง 33% แตะ 1.36 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสแรก เนื่องจากผลผลิตสินแร่เหล็กและยอดขายตกลง ขณะที่บริษัทผู้ผลิตเหล็กรายอื่นๆ เช่น อาร์เซลอร์มิตตาล ก็มีแผนลดการลงทุนเช่นกัน รวมถึงลดการผลิตเพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยสจนทำให้ดีมานด์เหล็กหดตัวลง Vale ยอมรับว่า อาจจะพิจารณลดงบประมาณการลงทุนมูลค่า 1.42 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีนี้ลง
บลูมเบิร์กรายงานว่า ริค รอนเก ผู้บริหารของเพนกาน่า แคปิตอล กล่าวว่า ที่ผ่านมา แม้ว่าบริษัทเหล็กจะพูดถึงโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว แต่บริษัทเหล่านี้ก็จำเป็นต้องลดการผลิตลง เพราะไม่สามารถสวนกระแสนภายนอกได้
Vale ระบุว่า บริษัทมุ่งมั่นเรื่องการลดค่าใช้จ่ายในไตรมาสแรก และยังยึดนโยบายใช้ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน เพื่อสร้างสมดุลในตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากดีมานด์ที่หดตัวลง
ราคานิกเกิล ซึ่งเป็นแหล่งรายได้อันดับ 2 ของ Vale ร่วงลงถึง 63% มาอยู่ที่ 10,637 ดอลลาร์ต่อตันในไตรมาสแรกที่ตลาดโลหะลอนดอน Vale ได้ชะลอการคาดการณ์การผลิตนิกเกิลลง รวมทั้งชะลอการผลิตที่เหมืองออนคา พูม่า ทางตอนเหนือของบราซิล
ทั้งนี้ ยอดขายรายไตรมาสของ Vale ร่วงลงไป 32% แตะ 5.32 พันล้านดอลลาร์