สกุลเงินเอเชียต่างปรับตัวแข็งค่ากันถ้วนหน้าโดยมีสกุลเงินเงินวอนของเกาหลีใต้ที่พุ่งนำตลาด ขานรับข้อมูลในตลาดแรงงานที่ดีเกินคาดจากสหรัฐ ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงสัญญาณบ่งชี้ที่ว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นและหนุนให้ตลาดเกิดใหม่เป็นที่สนใจของนักลงทุน
เงินวอนไต่ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินริงกิตของมาเลเซียแข็งค่าขึ้นก่อนที่จีนเปิดเผยยอดส่งออกในวันพรุ่งนี้ที่คาดกันว่าจะลดลงในระดับที่ชะลอตัว 15.3% ขณะที่คาดว่ายอดค้าปลีกสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพโดยตัวเลขค้าปลีกจะเริ่มทรงตัวหลังจากที่ลดลง 1.2% ในเดือนมี.ค.
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ไต้หวันไต่ระดับขึ้นจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับจีนที่ดีขึ้นจะกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเม็ดเงินลงทุนในแผ่นดินใหญ่
ขณะเดียวกัน ดัชนีตลาดหุ้นเอเชียพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 6 หลังจากที่รัฐบาลรายงานตัวเลขจ้างงานของสหรัฐในเดือนเม.ย.ที่หดตัวน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11:01 น.ตามเวลาในกรุงโซล เงินวอนเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,238.10 ต่อดอลลาร์ โดยในระหว่างการซื้อขายเงินวอนถีบตัวขึ้นสูงสุด 1.7% แตะที่ 1,225.97 ต่อดอลลาร์ ด้านเงินริงกิตเทรดกันที่ระดับ 3.5035 ต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ 7 สกุลเงินของ 10 สกุลเงินที่ทำการซื้อขายมากที่สุดซึ่งไม่รวมเงินเยนต่างแข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ที่ลดลงเพียง 539,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์และน้อยกว่าที่ตกลง 699,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
"สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นได้ช่วยทำให้ตลาดเกิดใหม่มีกระแสเงินหมุนเวียนหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมหาศาล แม้ว่าจะมีข้อมูลเศรษฐกิจบางรายการที่ยังอ่อนแออยู่บ้างก็ตาม" ดิวฟอร์ อีวานส์ นักวิเคราะห์จาก State Street Global Markets กล่าว "นักลงทุนปลีกตัวออกจากสกุลเงินดอลลาร์ไปยังตลาดที่มีความเสี่ยงและสกุลเงินที่มีความเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะสินทรัพย์ในตลาดเอเชียก็เป็นแหล่งลงทุนที่มีความเสี่ยงอยู่พอตัว"