สศอ.คาด GDP อุตสาหกรรมปี 52 หดตัว 8-10% จากปัจจัยลบทั้งในและตปท.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 12, 2009 17:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.) ในฐานะรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม คาด GDP ภาคอุตสาหกรรมไตรมาส 2/52 จะติดลบ 11.9% แต่ยังดีขึ้นจากไตรมาสแรกที่ติดลบ 14.9% โดยคาดว่าทั้งปีนี้ GDP ภาคอุตสาหกรรมจะติดลบราว 8-10% ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยปีนี้ที่คาดว่าจะติดลบ 3-4% จากผลกระทบของวิกฤตการณ์เศรษฐกิจโลก และปัจจัยภายในประเทศ

ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรม (MPI) ปี 52 มีแนวโน้มลดลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับ GDP ภาคอุตสาหกรรม โดยจะติดลบ 10-12% จากปี 51 ที่ขยายตัว 3.9% โดย MPI ไตรมาสที่ 1/52 ติดลบ 20.8% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 50.86% ไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 56.60% เนื่องจากผลพวงของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจึงทำให้การบริโภคทั้งในประเทศและด้านการส่งออกได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

นายอาทิตย์ กล่าวว่า การผลิตและการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไตรมาส 1/52 ยังคงติดลบในระดับสูงที่ -18.7 ถึง -20.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 51 โดยระดับการผลิตและมูลค่าการส่งออกที่ลดลงอย่างต่อเนื่องกันมา 5 เดือน จึงเริ่มมีการขยายตัวในเดือนก.พ.52 และมีสัญญาณการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่ในเดือนมี.ค.มีการผลิตเพิ่มขึ้นจากเดือนก.พ.ถึง 17% และการส่งออกเพิ่มสูงถึง 15.08% "ภาคการผลิตอุตสาหกรรมในไตรมาสที่ 2 ยังมีโอกาสที่จะลดลงในอัตราน้อยกว่าในช่วงไตรมาสแรก และหากปัญหาทางการเมืองคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นและนโยบายการกระตุ้นการใช้จ่ายของรัฐบาล น่าจะช่วยให้การใช้จ่ายในประเทศที่เพิ่มขึ้น และส่งผลให้อุตสาหกรรมฟื้นตัวเร็วขึ้น" ผอ.สำนักงานเศรษบกิจอุตสาหกรรม กล่าว

นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ไตรมาส 1/52 การผลิตและการส่งออกสำหรับอุตสาหกรรมไฟฟ้าติดลบ -40.04% และ-28.92% โดยมีแนวโน้มการผลิตและการส่งออกไตรมาสที่ 2/52 ขยายตัวขึ้น คือ -22.56% และ -20.0% ซึ่งทั้งปี 52 การผลิตและส่งออกจะหดตัวที่ -18.41% และ -15.0%

ขณะที่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์การผลิตและการส่งออกหดตัว -23.49% และ -33.02% โดยมีแนวโน้มการผลิตจะขยายตัวไตรมาสที่ 2/52 เนื่องจากคำสั่งซื้อที่มีกลับเข้ามาบ้างแล้วแม้จะยังเป็นตัวเลขที่ติดลบอยู่ คือ -19.99% และ -20.0% โดยทั้งปี 52 คาดว่าการผลิตและการส่งออกจะยังคงติดลบ -14.49% และ-15.0% อย่างไรก็ตามจากจำนวนคำสั่งซื้อที่กลับเข้ามาจึงมีส่วนช่วยให้สถานการณ์การจ้างงานดีขึ้น โดยผู้ประกอบการบางโรงงานสามารถรับสมัครงานเพิ่มเติมจากเดิมได้แล้วเนื่องจากมีคำสั่งซื้อกลับเข้ามา

ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ การผลิตในไตรมาสที่ 1/52 หดตัว มีการผลิตจำนวน 3.6 แสนคัน เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก ด้านการส่งออกยังคงหดตัวเนื่องจากตลาดส่งออกหลัก เช่น ออสเตรเลีย ยุโรป ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจ การจำหน่ายในประเทศในปี 52 ยังคงหดตัวมีสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่หดตัว ประกอบกับความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สถานการณ์การจ้างงาน อุตสาหกรรมยานยนต์ในส่วนของโรงงานประกอบรถยนต์ และโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เริ่มปรับลดพนักงานที่เป็น Sub-contract เนื่องจากมีการปรับลดกำลังการผลิต

ส่วนอุตสาหกรรมอาหาร การผลิตในไตรมาส 1/52 หดตัว -5.3% เนื่องจากความต้องการสินค้าบางรายการในตลาดลดลง แต่สินค้ากลุ่มปศุสัตว์ เช่น ไก่สดแช่แข็งและไก่แปรรูปมีอัตราการขยายตัวของการผลิต เนื่องจากได้รับผลดีจาก JTEPA ในตลาดญี่ปุ่น อีกทั้งสหภาพยุโรปยังคงนำเข้าตามโควตา เนื่องจากมีราคาต่ำกว่าสินค้าอื่น

การส่งออก หดตัว 6.3% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของตลาดส่งออกหลัก เช่น สหรัฐ และสหภาพยุโรป สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัว ได้แก่ ไก่แปรรูป และน้ำตาล การจำหน่ายหรือการบริโภคไตรมาส 1/52 หดตัว 2% และในไตรมาส 2/52 คาดว่าจะปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากเกิดความไม่สงบภายในประเทศส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคลดลง สถานการณ์การจ้างงาน อุตสาหกรรมอาหารยังขาดแคลนแรงงานในบางกลุ่ม เช่น ประมง ขณะที่สาขาอื่นๆ ไม่ปรับลดแรงงาน แต่ลดการทำงานล่วงเวลา

อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม โดยกลุ่มเสื้อผ้าสำเร็จรูปการผลิต การจำหน่ายในประเทศ และการส่งออก ในไตรมาส 1 ปรับลดลงต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลักและเศรษฐกิจโลก การส่งออกในไตรมาส 2 และทั้งปี 52 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น จากแนวโน้มการส่งออกของจีนและบังคลาเทศลดลง การจ้างงานได้รับผลกระทบตามคำสั่งซื้อที่ลดลงโดยเฉพาะกลุ่ม Sub-contract แต่ผู้ผลิตบางรายยังต้องการแรงงานเพิ่ม กลุ่มผ้าผืนแนวโน้มการส่งออกไตรมาส 2 เริ่มปรับตัวดีขึ้นโดยติดลบลดลง -1.4% และปี 52 ติดลบ -1.7% เนื่องจากไทยเป็นฐานการผลิตที่มีศักยภาพและครบวงจรมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค สามารถส่งออกไปเวียดนาม ลาว กัมพูชา และบังคลาเทศ ซึ่งมีแนวโน้มบริโภคสูงขึ้น

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ การผลิตในไตรมาส 1/52 หดตัวน้อยกว่าไตรมาส 4/5151 คาดการณ์ในไตรมาส 2/52 การผลิตจะขยายตัว 20.5% และคาดว่าทั้งปี 52 การผลิตจะหดตัวเพียง -2.5% การส่งออกไตรมาส 1/52 ขยายตัวที่ 106.3% เนื่องจากผลของราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก สำหรับการส่งออกในไตรมาส 2 คาดว่าจะขยายตัวที่ 62.4% และปี 52 จะขยายตัว 36.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ