นายชาตรี ชินวุฒิ หรือพนม นพพร ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาภาคเอกชน (ปปท.ภาคเอกชน)ทำหนังสือขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้สอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก โดยเฉพาะระดับผู้บริหารสำคัญ 6 คน และในระหว่างการสอบสวนขอให้สั่งการให้ไปช่วยราชการที่อื่นก่อน จากกรณีที่ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ของรัฐชุดจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่ย่านพัฒน์พงศ์ถูกกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าขัดขวางการทำงาน มีการชิงตัวผู้ต้องสงสัยและชิงของกลางคืน
"ผู้ค้าในพัฒน์พงษ์พูดจาใหญ่โตว่าที่ขายอยู่ได้ เพราะจ่ายส่วยให้ทุกหน่วยงานเป็นค่าคุ้มครอง จึงไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลและประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นผู้ค้าสินค้าละเมิด ไปเดินขบวนร้องเรียนไปทั่ว ทั้งหน่วยงานภาครัฐ พรรคการเมือง และสภาทนายความ ขอถามว่าทำไม สน.บางรัก ยังเฉยไม่ดำเนินการอะไรทั้งที่ผู้ค้าสินค้าละเมิดไปเดินขบวนประกาศตัวตนอย่างชัดเจนถึงสถานีตำรวจ เรียกได้ว่าโจรมาถึงที่แล้ว ท่านยังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่จับกุม ไม่ดำเนินการอะไรเลย" นายชาตรีกล่าว
ทั้งนี้ ปปท.ภาคเอกชนเห็นว่าเพื่อให้เกิดความชัดเจน ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้สืบสวน สอบสวน กรณีที่มีการส่งส่วยนั้น จ่ายให้ใครและหน่วยงานใด และลงโทษตามกฎหมายฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับสินบน และขอให้ปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจังเพื่อให้การคุ้มครองเจ้าของสิทธิที่เสียภาษีอย่างถูกต้องให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพื่อให้เจ้าของสิทธิได้สร้างงานใหม่ๆ และช่วยให้พนักงานของเจ้าของสิทธิไม่ต้องตกงาน
ขณะเดียวกันขอให้ภาครัฐจัดการกับผู้ค้าสินค้าละเมิดอย่างจริงจัง เพราะทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย ไม่จ่ายภาษี และขอให้ยกระดับการกระทำความผิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาทุกฉบับ ให้เป็นความผิดมูลฐานของกฎหมายฟอกเงินด้วย
นายชาตรี กล่าวว่า พื้นที่ที่มีการละเมิดมากในปัจจุบันและถือเป็นพื้นที่สีแดง คือ ย่านบ้านหม้อ, คลองถม, สะพานเหล็ก, พัฒน์พงษ์, พันธุ์ทิพย์พลาซ่า, มาบุญครอง, ย่านประตูน้ำ, สุขุมวิทซอย 1-19 ซึ่งสถานที่เหล่านี้ภาคเอกชนต้องการให้ภาครัฐปราบปรามอย่างต่อเนื่องและจริงจังให้หมดไป และหากท้องที่ปล่อยปละละเลยไม่ดำเนินการจะต้องมีการลงโทษ
นายสัญญา สถิรบุตร ประธานที่ปรึกษา รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กรณีมีการกล่าวหาและโจมตีว่าคณะทำงานปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของกระทรวงพาณิชย์ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.) ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่นั้น ขอยืนยันว่า คณะทำงานมีอำนาจตามกฎหมายและสามารถจับกุมการละเมิดสินค้าที่มีการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องมีหมายค้น และปรากฏความผิดซึ่งหน้า และในกรณีที่พัฒน์พงษ์ก็เช่นเดียวกันสามารถกระทำได้
ส่วนเจ้าหน้าที่ของ กอ.รมน. ที่เข้าร่วมเป็นคณะทำงานก็เป็นเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย เพราะได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง โดยประกาศกระทรวงพาณิชย์ ลงวันที่ 30 เม.ย.52 ลงนามโดยนางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์
อย่างไรก็ดี ขณะนี้นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้น กรณีการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่พัฒน์พงษ์แล้ว โดยมีนายกรณรงค์ ฤทธิ์ฤาชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานและให้สอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้น และให้เสนอผลการสอบสวนโดยเร็ว