นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เสนอแนะให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ เพื่อผลักดันให้มีการปล่อยกู้ช่วยเหลือด้านสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการได้มากขึ้น แม้จะยอมรับว่าเป็นเรื่องลำบากใจหากไม่มีมาตรการที่เข้มงวด เพราะอาจจะก่อให้เกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ในระบบเพิ่มมากขึ้น
"นโยบายการคลังใช้เต็มพิกัดแล้ว ต้องมีนโยบายการเงินเข้ามาช่วยเหลือ ก็เห็นใจแบงก์ชาติที่กังวลว่าหากปล่อยให้อนุมัติสินเชื่อโดยง่ายในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี จะทำให้เกิดปัญหา NPL แต่หากปล่อยให้ธุรกิจประสบปัญหา ก็จะกลับมาเป็น NPL อีกด้านหนึ่ง" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลจะเร่งดำเนินการจัดสรรงบประมาณไปยังโครงการต่างๆ เพื่อจะทำให้เกิดการเซ็นสัญญากับภาคเอกชน ซึ่งภาคเอกชนจะได้นำสัญญาที่ทำไว้กับรัฐบาลไปใช้เป็นหลักฐานเพื่อขอกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ได้
ส่วนสิ่งที่ฝ่ายค้านพยายามจะคัดค้านการออก พ.ร.ก.การให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจมูลค่า 4 แสนล้านบาทนั้น คงต้องขอความเห็นใจจากฝ่ายค้านด้วย เพราะถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วน โดยเฉพาะวงเงิน 2 แสนล้านบาทแรกที่จะต้องจัดสรรลงไปกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะทำให้การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างจำนวนมาก
ทั้งนี้ รัฐบาลจะเร่งจัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้ก้อนนี้ และจะนำเสนอรายชื่อเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า ก่อนนำเสนอร่าง พ.ร.ก.ฉบับนี้เข้าสู่การความชอบจากที่ประชุมรัฐสภาต่อไป