อัลลิอันซ์ เอสอี (Allianz SE) บริษัทประกันรายใหญ่ที่สุดของยุโรปในแง่มูลค่าการตลาดเผยกำไรไตรมาสแรกวูบหนัก 97% เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการขายกิจการของเดรสเนอร์ แบงก์ (Dresdner Bank)ให้กับคอมเมิร์ซแบงค์ เอจี รวมถึงการปรับลดมูลค่าทางบัญชีด้านการลงทุน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า รายได้สุทธิของอัลลิอันซ์ร่วงลงไปอยู่ที่ 29 ล้านยูโร (39.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากระดับ 1.15 พันล้านยูโรในปีก่อนหน้านี้ ขณะที่รายได้สุทธิจากการดำเนินงานซึ่งรวมถึงการขายกิจการเดรสเนอร์แบงก์ที่เสร็จสิ้นไปเมื่อเดือนม.ค.นั้นตกลง 69% มาอยู่ที่ 424 ล้านยูโร
ไมเคิล เดิร์กแมน ซีอีโอของอันลิอันซ์กล่าวกับผู้ถือหุ้นในการประชุมประจำปีว่า ผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสแรกร่วงลง 41% แตะที่ประมาณ 1.3 พันล้านยูโร ซึ่งได้รับเป็นผลกระทบจากวิกฤตการเงินและภัยธรรมชาติที่ทำให้บริษัทต้องจ่ายเงินให้กับผู้เอาประกัน แต่ถึงกระนั้น อัลลิอันซ์ก็ยังไม่มีความจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่มเติม
ทั้งนี้ เดิร์กแมนได้เริ่มเบนเข็มการทำธุรกิจประกันของบริษัทที่ดำเนินมา 7 ปีด้วยการหันมาทุ่มเทบริการด้านธนาคารอย่างเต็มรูปแบบด้วยการขายกิจการของเดรสเนอร์ให้กับคอมเมิร์ซแบงก์ เอจีเป็นเงิน 5.1 พันล้านยูโรเมื่อวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา
จากสถานการณ์ของตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นที่ซบเซาทั่วโลกท่ามกลางภาวะล่มสลายของตลาดเงินครั้งใหญ่ได้ส่งผลกระทบต่อความสามารถของกลุ่มบริษัทประกันภัยในการทำรายได้จากการลงทุน ขณะเดียวกันบริษัทก็สูญเงินไปกับสินทรัพย์ด้อยค่าในตลาดหุ้นและตลาดทุน รวมถึงการเรียกรับเงินประกันของผู้เอาประกันหลังเกิดภัยธรรมชาติในยุโรปและออสเตรเลีย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อผลกำไรในไตรมาสนี้
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา อัลลิอันซ์ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรประจำปี 2551-2552 ด้วยสาเหตุจากสถานการณ์ความวุ่นวายในตลาดเงิน โดยคาดว่าผลกำไรจากการดำเนินงานซึ่งไม่รวมธุรกิจธนาคารนั้นจะอยู่ที่ 9 พันล้านยูโร