ลาสเวกัส แซนด์ส คอร์ป เจ้าของธุรกิจคาสิโนชื่อดังของสหรัฐ มีแผนที่จะเลย์ออฟพนักงานเพิ่มขึ้นอีกถึง 4,000 ตำแหน่งในมาเก๊าและฮ่องกง หลังจากที่บริษัทได้ชะลอโครงการก่อสร้างมูลค่า 1.2 หมื่นล้านที่โคไต สตริป ซึ่งเป็นย่านธุรกิจพนันและบันเทิงที่ขึ้นชื่อของมาเก๊า อีกทั้งเพื่อลดต้นทุนขณะที่กำลังจะมีคาสิโนคู่แข่งเปิดให้บริการ
ไมเคิล ลีเวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการคนใหม่ กล่าวให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า จะมีพนักงานถูกเลิกจ้างราว 3,000 - 4,000 คนภายในเดือนก.ย.นี้ นอกเหนือไปจากจำนวน 17,500 คนที่บริษัทประกาศว่าจะปลดก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตในตลาดสินเชื่อ รวมถึงรายได้ที่ลดลง และเผชิญความเสี่ยงที่สัญญากู้เงินอาจมีอันต้องสะดุด เมื่อปีที่แล้ว ลาสเวกัส แซนด์ส ซึ่งควบคุมดูแลโดยมหาเศรษฐี เชลดอน เอเดลสัน จึงได้ตัดสินใจยุติการก่อสร้างโรงแรมและคาสิโนจำนวน 20,000 ห้องบนโคไต สตริป และระงับการก่อสร้างที่พักอาศัยมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ในลาสเวกัส รวมถึงโครงการอื่นๆในรัฐเพนซิลเวเนีย นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มทุน ลดชั่วโมงการทำงานของพนักงานและปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่ายมากกว่า 470 ล้านดอลลาร์ด้วย
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์เชื่อว่า การที่เวเนเชียน มาเก๊า ซึ่งเป็นรีสอร์ตคาสิโนใหญ่ที่สุดในเอเชีย กำลังจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ลาสเวกัส แซนด์ส ต้องตัดสินใจเลย์ออฟพนักงานเพิ่ม โดยบ.เมลโค คราวน์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เตรียมที่จะเปิด ซิตี้ ออฟ ดรีมส์ ศูนย์รวมความบันเทิงและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ที่ย่านโคไตเช่นกัน
เกเบรียล ชาน จากเครดิตสวิส กรุ๊ป ในฮ่องกงกล่าวว่า "การลดจำนวนพนักงานจะช่วยลดต้นทุนให้ลาสเวกัส แซนด์ส และยังเป็นการเตรียมรับมือกับซิตี้ ออฟ ดรีมส์ที่กำลังจะเปิดบริการด้วย ถึงแม้ว่าอัตราการขยายตัวในมาเก๊ามีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้น แต่เนื่องจากมีการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องลดต้นทุน"