นักวิเคราะห์จากหลายสำนักเชื่อมั่นว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (5.85 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของรัฐบาลจีน รวมถึงการลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของธนาคารกลางจีนจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวขึ้นได้ แม้ต้องเผชิญวิกฤตยอดส่งออกที่ดิ่งหนักกว่าคาด 22.6% จากปีก่อน เนื่องจากการค้ากับสหรัฐและสหภาพยุโรปซบเซา
โดยการคาดการณ์ในเชิงบวกมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า การใช้จ่ายภาคโรงงานและอสังหาริมทรัพย์ถีบตัวสูงขึ้น 30.5% ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้จากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ปริมาณเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์และยอดเงินกู้ล็อตใหม่พุ่งทะลุ 5 ล้านล้านหยวนตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ตลอดทั้งปีนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนตั้งเป้าเป็นชาติแรกที่ผลักดันให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำที่มีผลกระทบต่อุปสงค์การส่งออก ซึ่งทำให้ยอดขนส่งสินค้าของประเทศดิ่งลง ขณะเดียวกันการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนอาจช่วยให้ประเทศต่างๆในเอเชียมีอุปสงค์ที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่ตอกย้ำว่า ความเลวร้ายถึงขีดสุดของวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำได้สิ้นสุดลงแล้ว
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากโซซิเอเต เจเนอราล เอสเอในฮ่องกงกล่าวว่า "แม้การฟื้นตัวจากภาวะตื่นตระหนกครั้งใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะไม่ราบรื่นเท่าที่ควร แต่จีนสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงเวลา 18-24 เดือนขณะที่รอคอยการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศในยุโรป"
โดยในปีนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนไต่ระดับขึ้นแล้ว 46% ในปีนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวดีขึ้น ด้านโจเซฟ สติกลิทซ์ นักเศรษศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลกล่าวว่า จีนอาจรอดพ้นจากมรสุมทางเศรษฐกิจเพราะจีนมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยบรรเทาผลกระทบเลวร้ายจากเศรษฐกิจภายใต้อัตราการออมในประเทศที่พุ่งสูง ขณะที่รัฐบาลดำเนินมาตรการต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ยังชี้ให้เห็นถึงผลจากการใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่ประกาศใช้ไปเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วยหนุนให้มีการประเมินนโยบายการเงินรายไตรมาสที่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ แต่ก็มีรากฐานที่แข็งแกร่ง
ด้านหม่า จุน นักวิเคราะห์จากดอยช์ แบงก์ เอจีในฮ่องกงกล่าวว่า ข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้สะท้อนให้เห็นถึงเม็ดเงินลงทุนของรัฐบาลขณะที่การฟื้นตัวในภาคเอกชนยังมีให้เห็นอยู่เพียงเล็กน้อย โดยในช่วงไตรมาสแรกเศรษฐกิจจีนขยายตัว 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2542 ขณะที่รัฐบาลตั้งเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ที่ 8%